ความพึงพอใจการใช้บริการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขานนทบุรี
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจประชากรศาสตร์ ศึกษาพฤติกรรม ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ และเพื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างประชากรศาสตร์ และพฤติกรรมการใช้บริการกับความพึงพอใจในการใช้บริการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขานนทบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ผู้ที่ใช้บริการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขานนทบุรี จำนวน 400 ราย สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย การแจกแจงความถี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติไคสแควร์
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 31 – 40 ปี สถานภาพโสด เป็นพนักงานบริษัทเอกชน/รัฐวิสาหกิจ การศึกษาระดับปริญญาตรี มีรายได้ 20,001 – 30,000 บาท และนับถือศาสนาอิสลาม นอกจากนี้ผู้วิจัยยังพบว่า ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ใช้บริการเพราะเป็นธนาคารที่ดำเนินธุรกรรมตามหลักศาสนาอิสลาม มีความถี่ในการใช้บริการ 2 ครั้งต่อเดือน นิยมใช้บริการวันศุกร์ ช่วงเวลา 14.01 น. – 16.30 น. ใช้บริการด้านเงินฝากมากที่สุด และปัจจัยที่มีความพึงพอใจมากที่สุด ได้แก่ ปัจจัยด้านบุคลากร และปัจจัยที่มีความพึงพอใจน้อยที่สุด ได้แก่ ปัจจัยด้านสถานที่ให้บริการ และการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัย พบว่า เพศ อายุ สถานภาพ อาชีพ ระดับการศึกษา ระดับรายได้ และศาสนาที่นับถือมีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจต่อการใช้บริการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขานนทบุรี และยังพบว่า สาเหตุที่เลือกใช้บริการ ความถี่ในการใช้บริการ วันที่ไปใช้บริการ เวลาที่ไปใช้บริการ ลักษณะการใช้บริการ และประเภทการใช้บริการมีความสัมพันธ์กับความพึงพอใช้ในการใช้บริการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขานนทบุรี
คำสำคัญ: ความพึงพอใจ, การใช้บริการ, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
Abstract
This research aims to explore the personality, behavior and study the customer satisfaction as well as study the factors that were relation between personality, service behavior and satisfaction on the service of Islamic Bank of Thailand, Nontaburi branch. Sample group used consumers of Islamic Bank of Thailand, Nontaburi branch totally 400 persons by using purposive random sampling and statistical method used in data analysis was frequency distribution, percentage, mean, and standard deviation and chi square. it was found by research results that
The result of the study showed that most consumers were female, aged between 31 – 40 years, single, as private companies/enterprises, hold bachelor degree and earned to 20,001 – 30,000 Baht and Islam. In addition, Most of them used service was banking transactions according to Islamic principles, frequency of service were 2 times per month, most Friday during 14.01 – 16.30, used of deposit services and the satisfaction of most service was human factor and place factor was the least satisfied and found that sex; age, marital status, occupation, education level, income, and religion were related to satisfaction on the service of Islamic Bank of Thailand, Nontaburi branch. Besides, it also has found that cause options, frequency of used, on the service, time to used, description of service and type of service were related to satisfaction on the service of Islamic Bank of Thailand, Nontaburi branch
Keyword: Satisfaction, On the Service, Islamic Bank of Thailand
Keywords
งานที่อ้างถึง
รุ่งโรจน์ สงสระบุญ. (2560). ความพึงพอใจการใช้บริการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขานนทบุรี. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยธนบุรี, 11(25), 68-77.
SATISFACTION ON THE SERVICE OF ISLAMIC BANK OF THAILAND, NONTABURI BRANCH By Rungroje Songsraboon
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ (1) เพื่อศึกษาคุณภาพบริการโดยรวม การมุ่งเน้นตลาด นวัตกรรมทางการตลาด และการดำเนินงานของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย (2) เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุทางตรงและทางอ้อมของคุณภาพบริการโดยรวม การมุ่งเน้นตลาด นวัตกรรมทางการตลาดที่มีผลต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย ประชากร ได้แก่ เจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย จำนวน 207 ตัวอย่าง การศึกษาครั้งนี้ใช้แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับตามแนวของไลเคิร์ท จำนวน 64 ข้อ เป็นเครื่องมือเก็บข้อมูล สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนสถิติที่ทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ การวิเคราะห์เส้นทางอิทธิพล (Path Analysis) และการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM)
ผลการวิจัยพบว่า (1) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็กที่มีเตียงผู้ป่วย 10 – 100 เตียง และเป็นโรงพยาบาลประเภทรักษาโรคทั่วไป (2) ปัจจัยคุณภาพบริการโดยรวม การมุ่งเน้นตลาด และนวัตกรรมทางการตลาดมีผลทางตรงและทางอ้อมต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาลเอกชน และ (3) โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุที่พัฒนาขึ้นจากการวิจัยมีความเหมาะสม เนื่องจากมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ และแต่ละองค์ประกอบของโมเดลมีความเที่ยงตรง มีความสามารถในการพยากรณ์ได้ระดับดีและเป็นที่ยอมรับได้
คำสำคัญ: คุณภาพบริการโดยรวม, การมุ่งเน้นตลาด, นวัตกรรมทางการตลาด, การดำเนินงาน, โรงพยาบาลเอกชน
Abstract
The purpose of this research was (1) to study total service quality, market orientation, marketing innovation and performance of private hospitals. (2) to analyze the causal direct and indirect relationship of total service quality, market orientation, Marketing innovation towards performance of private hospitals. Samples consisted of executive officers of private hospitals in Thailand. Sampling was done of 207 people. The anonymous questionnaires of sixty-four items of five-point Likert scale. The data received were calculated and analyzed using descriptive statistics (frequency, percentage, mean and standard deviation). The path analysis was used to test the hypotheses. The Structural equation modeling: SEM was used to test performance of private hospitals model
The results of the study showed that (1) most samples are manager of small private hospital size with 10 – 100 beds and private hospitals of treatment of common diseases (2) total service quality, market orientation and marketing innovation direct and indirect to performance of private hospitals. The causal model developed is appropriate. Because they are consistent with the empirical data. Elements of the model are accurate (Validity) and have the ability to predict and are an acceptable level.
Keyword: Total Service Quality, Market Orientation, Marketing Innovation, Performance, Private Hospitals
งานที่อ้างถึง
รุ่งโรจน์ สงสระบุญ. (2559). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยธนบุรี, 10(22), 80-88.