พฤติกรรมและความพึงพอใจในการใช้บริการบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สาขาซีคอนบางแค

 

Title              :  พฤติกรรมและความพึงพอใจในการใช้บริการบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สาขาซีคอนบางแค: BEHAVIOR AND SATISFACTION OF USING THAILAND POST COMPANY LIMITED, SEACON BANGKAE BRANCH

Researcher       :  จิตระวี ทองเถา¹ และ ดร. พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก² 
Department     :  ¹อาจารย์คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ²ผู้ช่วยคณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                :  jitravee@yahoo.com,  pichmus@yahoo.com

บทคัดย่อ             :  วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อศึกษาลักษณะประชากรศาสตร์ พฤติกรรมการใช้บริการบริษัท ไปรษณีย์ไทยจํากัด สาขาซีคอนบางแค และความพึงพอใจในการใช้บริการบริษัทไปรษณีย์ไทย จํากัด สาขาซี คอนบางแค กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ผู้ใช้บริการบริษัทไปรษณีย์ไทย จํากัด สาขาซีคอนบาง แค จํานวน 400 คน ทําการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เก็บรวบรวมข้อมูลจาก แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน สําหรับผลการทดสอบสมมติฐานใช้สถิติทดสอบความสัมพันธ์แบบไคสแควร์ (Chi-square) ผลการวิจัย พบว่าผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 20 – 30 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี มีสถานภาพโสด มีอาชีพทํางานบริษัทเอกชน และมีระดับรายได้ต่อเดือน 30,000 บาทขึ้นไป พฤติกรรมของ ผู้ใช้บริการคือ การเลือกใช้บริการรับ-ส่งพัสดุในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้บริการเดือนละครั้ง ช่วงเวลา ที่ใช้บริการเวลา 12.01 – 16.00 น. และค่าใช้จ่ายในการใช้บริการต่อครั้ง ต่ํากว่า 50 บาท นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจในการใช้บริการบริษัทไปรษณีย์ไทย จํากัด สาขาซีคอนบางแค โดยรวมอยู่ใน ระดับมาก ความพึงพอใจมากที่สุด คือด้านราคาค่าบริการ รองลงมาคือด้านกระบวนการการให้บริการ และ มีความพึงพอในน้อยที่สุด คือด้านลักษณะกายภาพ ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ประชากรศาสตร์ ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ ต่อเดือน และพฤติกรรมในการใช้บริการที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด สาขา ซีคอนบางแค มีความสัมพันธ์กับ ความพึงพอใจในการใช้บริการ ด้านคุณภาพการให้บริการ ด้านราคาค่าบริการ ด้านบุคลากรที่ให้บริการ ด้าน กระบวนการให้บริการ

คำสำคัญ             :  พฤติกรรม, ความพึงพอใจ, บริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด

Abstract            :  This research aims to study the demographic, customers’ behavior, and customers’ satisfaction at Thailand Post Company Limited, Seacon Bangkae branch. The samples used for this study are 400 samples from people who servicing at Thailand Post Company Limited, Seacon Bangkae branch. This research was purposive sampling. Questionnaireswere used to collect data. The data was analyzed as frequency, percentage, mean, and standard deviation. For hypothesis testing was used chi-square. The results of the study showed that most customers are female, aged between 20-30 years old, hold bachelor’s degree, single, worked in private companies, and earned more than 30,000 baht. Customers’ behavior is the choice of courier services for domestic or oversea. They send 1 time per month. The time period is 12:01-4:00 pm. The expense per time is below 50 Baht. In addition, customers’ satisfaction at Thailand Post Company Limited, Seacon Bangkae branch overall was high level. The most satisfaction was price. Secondly, it was process. The lowest satisfaction was physical evidence.
The hypothesis testing revealed that demographic: gender, age, level of education, occupation and customers’ behavior of used Thailand Post Company Limited, Seacon Bangkae branch related to satisfaction: service quality, price, personal, process and physical evidence.

Keywords         :  Behavior, Satisfaction, Thailand Post Company Limited

Download PDF: พฤติกรรมและความพึงพอใจในการใช้บริการบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สาขาซีคอนบางแค


Proceeding       :  การประชุมวิชาการระดับชาติสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ประจำปี 2560 วันที่ 25 พฤษภาคม 2560 มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต APHEIT Conference 2017                               

Link to Proceeding:    http://apheitconference.siam.edu/index.php/en/proceedings-2012-2016


Bibliography    :  จิตระวี ทองเถา และ พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก. (2560). พฤติกรรมและความพึงพอใจในการใช้บริการบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สาขาซีคอนบางแค. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ประจำปี 2560 (หน้า 200-209). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต. 


Quick View

พฤติกรรมในการเล่นเกมกระดาน และองค์ประกอบของปัจจัยทางด้านผลกระทบ จากการเล่นเกมของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร (2560)

 

ชื่อบทความ     :  พฤติกรรมในการเล่นเกมกระดาน และองค์ประกอบของปัจจัยทางด้านผลกระทบ จากการเล่นเกมของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร : Behavior of Playing Board Games and
Component of Effective Factors for Playing games of Teenagers in the Bangkok

เจ้าของผลงาน       :  วราภรณ์ ลิ้มเปรมวัฒนา และ กันตภณ ธรรมวัฒนา

หน่วยงาน               :  ภาควิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                   :  varaporn.lim@siam.edu

บทคัดย่อ                : วิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเล่นเกมและองค์ประกอบของปัจจัยในการเล่นของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ โดยเก็บแบบสอบถามกับวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 13-23 ปี ที่พักอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 ชุด สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ประกอบด้วย การหาค่าเปอร์เซ็นต์ (Percentage) การหาค่าเฉลี่ย (Mean) และการหาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และใช้การวิเคราะห์ปัจจัย (Factor Analysis) ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า 1) พฤติกรรมการเล่นเกมกระดาน พบว่า เล่นเกมกระดานน้อยกว่า 1 ปี เล่นเกมเฉลี่ยต่อสัปดาห์จำนวน 1 – 3 ครั้ง เล่นเกมกระดานในแต่ละวันน้อยกว่าหรือเท่ากับ 1 ชั่วโมง เล่นเกมกระดานช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. เล่นเกมกระดานที่บ้านหรือหอพัก มีค่าใช่จ่ายในการเล่นเกมกระดานต่อสัปดาห์ น้อยกว่า 50 บาท เล่นเกมกระดานกับเพื่อน ชอบเล่นเกมกระดานประเภทมะ-นอ-พะ-ลิ เกมเศรษฐี เล่นเกมกระดานเพื่อความบันเทิง ความสนุกสนานเพลิดเพลินและผ่อนคลายความตึงเครียด 2) ผลกระทบต่อพฤติกรรมการเล่นเกมกระดาน ได้แก่ ด้านสุขภาพร่างกาย ด้านการเงิน ด้านการศึกษาและสติปัญญา ด้านความสัมพันธ์ในครอบครัวและกลุ่มเพื่อน และ ด้านอารมณ์  มีผลกระทบในภาพรวมระดับปานกลาง 3) องค์ประกอบของปัจจัยด้านผลกระทบจากการเล่นเกมของวัยรุ่นประกอบไปด้วย 4 องค์ประกอบดังนี้ ปัจจัยด้านการเงินและความสัมพันธ์ในครอบครัวรวมทั้งกลุ่มเพื่อน ปัจจัยด้านการศึกษาและสติปัญญา ปัจจัยด้านสุขภาพร่างกาย และ ปัจจัยด้านอารมณ์และความรู้สึก

คำสำคัญ                : พฤติกรรมการเล่นเกมกระดาน, องค์ประกอบปัจจัยด้านผลกระทบ, การเล่นเกมของวัยรุ่น

Abstract              :  The survey research focused on the behavior of board games and components of effective factors for teenagers of game playing in Bangkok area. The data was collected from 400 samples of 13-15 years-old teenagers totally. The research result indicated that most of the samples play a board game for entertainment, enjoyableness and relaxation. The overall impacts of board games playing are at medium level, in term of health; finance; education and intelligence, relationship of family and friends. Emotional impact can divide into two dimensions as followed: Positively, the educational and intelligent factors are that playing board games supports brain development; the creative, thinking and decision-making ability and the learning concentration. For the emotional factors are that the players are released from tension; cheerful; emotion controlling and relationship development. Negatively, the game players suffered from physical health likes back pains and other illness. Economic effect was over expense. Finally, it also affected to worse relation in family and friends.

Keywords           : Behaviors of playing board games, component of effective factors, playing games of teenagers


Publication        : วารสารวิจัยสังคม ปีที่ 40 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2560  Journal of Social Research)  Vol.40 No.2  Jul-Dec 2017

Link to Publication:   https://www.tci-thaijo.org/index.php/socialresearchjournal/article/view/90922

Bibliography    :  วราภรณ์ ลิ้มเปรมวัฒนา และ กันตภณ ธรรมวัฒนา. (2560). พฤติกรรมในการเล่นเกมกระดาน และองค์ประกอบของปัจจัยทางด้านผลกระทบ จากการเล่นเกมของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารวิจัยสังคม, 40(2), 107-132.


Quick View

พัฒนาการกฎหมายอุดมศึกษาเอกชนในประเทศไทย

 

Title              :  พัฒนาการกฎหมายอุดมศึกษาเอกชนในประเทศไทย: Development of Private Higher Education Law in Thailand

Researcher       :  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย จันทร์เรือง
Department     :  Faculty of Laws, Siam University, Bangkok, Thailand

E-mail                :  sommaichanruang@gmail.com

บทคัดย่อ             :  การจัดการศึกษาของเอกชนมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงปฏิรูปการศึกษาและส่งเสริมให้ขยายการจัดการศึกษาไปยังราษฎร ด้วยพระมหากรุณาธิคุณนี้เอกชนจึงเข้ามามีส่วนร่วมจัดตั้งโรงเรียนและพัฒนามาสู่การจัดการศึกษา ระดับอุดมศึกษา ในส่วนของกฎหมายอุดมศึกษาเอกชนที่เป็นพื้นฐานการบริหารสถาบันนั้น กฎหมายฉบับแรกคือพระราชบัญญัติวิทยาลัยเอกชน พ.ศ. 2512 ยังมีข้อจ ากัดในการจัดการศึกษาขั้นอุดมศึกษาของเอกชนอยู่หลายประการ อาทิ การกำหนดให้ จัดสอนเฉพาะประกาศนียบัตร ไม่อาจจัดสอนในระดับปริญญาและการกำหนดมาตรการเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศเป็นต้น ต่อมากฎหมายอุดมศึกษาเอกชนฉบับที่สอง คือ พระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2522 ได้มีพัฒนาการของกฎหมายที่ให้สิทธิเสรีภาพ แก่เอกชนมากขึ้น โดยมีภารกิจหลัก คือ การสอน การวิจัย การบริการทางวิชาการแก่สังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เช่นเดียวกับสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ปัจจุบันมีพัฒนามาถึงกฎหมายอุดมศึกษาเอกชน ฉบับที่สาม คือ พระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2546 กฎหมายฉบับนี้ได้เพิ่มอำนาจสภาสถาบันในการวางนโยบายและข้อกำหนดต่างๆ สำหรับการบริหารและการพัฒนาวิชาการ และเปิดโอกาสให้เอกชนได้จัดการอุดมศึกษาอย่างเป็นอิสระ รวมทั้งยอมรับเสรีภาพทางวิชาการ ซึ่งจะนำมาสู่ความเป็นเลิศของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนในประเทศไทย

คำสำคัญ             :  พัฒนาการ กฎหมาย อุดมศึกษาเอกชน

Abstract            :  Private-run education in Thailand had dated back to Ayutthaya period. It is not until the reign of King Rama V of Rattanakosin that Thai education was reformed and learning opportunities was expanded to the people. Under His Majesty’s kind patronage, the private sectors were given an opportunity to co-founding the school in which, later, developed into higher educational institution. The nation’s first higher education laws, representing the management foundation of private institution namely “the Private Higher Educational Institution Act (A.D.1969)”, contains several limitations such as the prohibition of private educational institution from administering the degree programs and the implementation of measures binding national security, etc. The second private higher institution law called “the Private Higher Educational Institution Act (A.D. 1979)” evolved into a more liberalized version, entitled more freedom for the private institutions to pursue their missions of teaching , researching, providing academic service to the society and enhancing national arts and culture, as similar to the public educational institution. Nowadays, the third private Higher Educational Institution Act (A.D. 2003), empowers private University’s council in managing and developing academic affairs, formulating and implementing policies and procedure as well as allowing more academic freedom, all aiming toward the excellence of private higher educational institutions in Thailand.

Keywords         :   Development, Law, Private Higher Education


Proceeding       :  การประชุมวิชาการระดับชาติ สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ประจำปี 2560 วันที่ 25 พฤษภาคม 2560 มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต APHEIT Conference 2017                               

Link to Proceeding:    http://apheitconference.siam.edu/index.php/en/proceedings-2012-2016

Bibliography    :  สมหมาย จันทร์เรือง. (2560). พัฒนาการกฎหมายอุดมศึกษาเอกชนในประเทศไทย. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ประจำปี 2560 (หน้า 980-991). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต. 


Quick View

มาตรฐานอาชีพผู้บริหารสถานศึกษาของประเทศไทย

 

Title              : มาตรฐานอาชีพผู้บริหารสถานศึกษาของประเทศไทย: Thailand’s Occupational Standard of School Administrator

Researcher       :  รศ.ดร. จอมพงศ์ มงคลวนิช Jomphong Mongkhonvanit
Department      :  รองศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชาการบริหารหารศึกษา บัณฑิตวิทยาลัยศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม กรุงเทพมหานคร 10160

E-mail                 :

Abstract             :  This article is aimed to present the development of Thailand’s occupational standard of school administrator through the collaboration between Thailand Professional Qualification Institute (Public Organization) and Siam University. The occupational standard was developed through the following phrases. First, researcher studied occupational standard of school administrator in three countries in addition to school administrator’s occupation in Thailand. Findings of the study were presented to approximately 60 stakeholders to develop conceptual framework for Thailand’s occupational standard of school administrator. Researcher developed Thailand’s occupational standard of school administrator through functional analysis technique that employed workshops of 15 experienced school administrators to develop functional map consisting of key purpose, key role, key function, unit of competence and element of competence. The occupational standard of school administrator was then presented to expert committee to validate the occupational standard and presented to seminar of 86 stakeholders to further realize their concerns and suggestions. The occupational standard of school administrator consists of 1 key purpose, 3 key roles, 7 key functions, 21 units of competence and 49 elements of competence. The occupational standard of school administrator also indicates performance criteria, range statement and assessment procedure. This occupational standard is to be employed as Thailand’s occupational standard of school administrator.

Keywords          :  occupational standard, school administrator, Thailand


Publication        : วารสารครุศาสตร์  ปีที่ 45 ฉบับที่ 4 ตุลาคม-ธันวาคม 2560  Journal of Education Studies  Vol.45 No.4 Oct-Dec 2017

Link to Publication:   

Bibliography     :  จอมพงศ์ มงคลวนิช. (2560). มาตรฐานอาชีพผู้บริหารสถานศึกษาของประเทศไทย. วารสารครุศาสตร์,  45(4), 293-309. 


Quick View

ระบบค้นหาคําศัพท์ภาษามือบนแพลทฟอร์มแอนดรอยด์

 

Title              :  ระบบค้นหาคําศัพท์ภาษามือบนแพลทฟอร์มแอนดรอยด์ : Basic Sign Language Search System on Android Platform

Researcher       : เอก บํารุงศรี และ สุรเชษฐ์ แซ่ลี้

Bamrungsi E. and Saelee S.

Department     :  ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                :   eak.bam@siam.edu

บทคัดย่อ             :   งานวิจัยนี้เป็นการพัฒนาแอพพลิเคชั่นระบบค้นหาคําศัพท์ภาษามือบนแพลทฟอร์มแอนดรอยด์สําหรับผู้บกพร่องทางการได้ยินและบุคคลปกติทั่วไปนําไปใช้ได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีความจําเป็นในการสื่อสารกับผู้บกพร่องทางการได้ยิน ระบบสามารถค้นหาศัพท์ภาษามือพื้นฐานทั้งภาษามือไทยและภาษามืออังกฤษ โดยแสดงผลการค้นหาเป็นรูปภาพและคําอธิบายการแสดงภาษามือส่วนประกอบของระบบมี 3 ส่วนคือ (1) ระบบค้นหาคําศัพท์ภาษามือโดยวิธีการใช้คําค้น (search) (2) ระบบค้นหาคําศัพท์ภาษามือโดยวิธีการค้นหาตามหมวดหมู่ตัวอักษร (3) ระบบสําหรับติดต่อผู้พัฒนาระบบ ระบบพัฒนาโดยใช้ภาษาจาวาในการเขียนชุดคําสั่ง และใช้ Eclipse ที่มี Plug in Android SDK เป็นเครื่องมือพัฒนา ระบบช่วยให้การสื่อสารกับผู้บกพร่องทางการได้ยินทําได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู็บกพร่องทางการได้ยินได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลปกติทั่วไปได้รวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น

คําสําคัญ             :   ภาษามือ ระบบค้นหา แอนดรอยด์

Abstract            :  This research is the development ofBasic Sign LanguageSearch system on Android Platform.Everyone is available anytime, anywhere to communicate with hearing impaired.The system can search Basic Thai andEnglish Sign Language.The system displays images and descriptions of gestures.The system consists of Word search system,Search by categoryand Contact developer system.Developers using Java and Eclipse with Android SDK as development tools.The system enables communication with the hearing impaired convenient and faster. As a result, hearing impaired people receive faster and more accurate help.

Keywords        :    Basic Sign Language, Search system, Android


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 5  The 5th Academic Science and Technology Conference 2017 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0” (Science and Technology as a Key Driver towards Thailand 4.0) วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม 2560  ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ผู้จัดหลัก: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

Link to Proceeding:    https://www.astcconference.com/page/proceedings#astc-content

Bibliography     :    เอก บํารุงศรี และ สุรเชษฐ์ แซ่ลี้. (2560). ระบบค้นหาคําศัพท์ภาษามือบนแพลทฟอร์มแอนดรอยด์. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 5 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0” (หน้า 1382-1391). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสยาม.


Quick View

ระบบค้นหาร้านอาหารด้วยการวิเคราะห์ส่วนบุคคล

 

Title              :  ระบบค้นหาร้านอาหารด้วยการวิเคราะห์ส่วนบุคคล : Restaurant Search System with Personalized Analysis

Researcher       :  จรรยา แหยมเจริญ, บุญฤทธิ์ รั่วสำราญ และ วรยศ คำลือ

Department     :  ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                :  boonyarit.rou@gmail.com

บทคัดย่อ             :   การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่จะนำมาวิเคราะห์เพื่อแนะนำร้านอาหารให้เหมาะกับบุคคลแต่ละบุคคล (Personalized Recommender) โดยวิเคราะห์จากประเภทความชอบอาหารและวัตถุดิบอาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ในแต่ละบุคคลที่เหมือนกัน โดยศึกษาจากข้อมูลทดสอบ (Training Data Set) ที่รวมมาได้จากแบบสอบถามพฤติกรรมในการเลือกรับประทานอาหาร ที่ค่าความเหมือน 1.98-2.00 และพัฒนาระบบค้นหาร้านอาหารด้วยการวิเคราะห์ส่วนบุคคล ที่แบ่งการทำงานออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 เป็นเว็บแอพพลิเคชัน สำหรับผู้ดูแลระบบในการจัดการข้อมูลข้อมูลหลักที่ใช้ใน ส่วนที่ 2 เป็นแอนดรอยด์โมบายแอพพลิเคชัน สำหรับผู้ใช้ที่เป็นร้านอาหาร และส่วนที่ 3 เป็นแอนดรอยด์โมบายแอพพลิเคชัน สำหรับผู้ใช้ที่เป็นผู้บริโภค สามารถกำหนดข้อมูลส่วนตัว เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ และค้นหาร้านอาหารที่เหมาะสมได้ ในการพัฒนาระบบแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. Backend System พัฒนาโดยใช้ภาษาจาวาสร้างฟังก์ชันรองรับการทำงานของฝั่งโมบายแอพพลิเคชัน และจัดการฐานข้อมูลด้วย MySql และ 2. Frontend System เป็นโมบายแอพพลิเคชันที่ทำงานบนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ พัฒนาด้วย Android SDK ผ่านโปรแกรม Android Studio

คําสําคัญ             :  ร้านอาหาร, การวิเคราะห์ส่วนบุคคล, การหาค่าความเหมือน

Abstract            :  The objective of this research is to study the variables which will be analyzed to introduce the restaurant to the individual. The personalized recommendation is based on the type of the food preferences and the food ingredients that cause allergic reactions in the same person by the study from training data set is included from questionnaire at the similarity value is 1.98-2.00. And to develop the restaurant search system with personalized analysis. The system consists of three parts: Part one is a web application for administrator to manage the master data, Part two is an Android mobile application for restaurant users, and Part three is an Android mobile application for consumer users to define their personal data for analysis to find the right restaurant. The development of the system is divided into two parts: 1. Backend System developed by using Java to create functions for mobile applications and use MySql to be database management system and 2. Frontend System is a mobile application on the Android platform developed with Android SDK.

Keywords        :    restaurant, personalized analysis, similarity value


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 6  The 6th Academic Science and Technology Conference 2018 วันพุธที่ 6 มิถุนายน 2561  ณ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

Link to Proceeding:    https://www.astcconference.com/page/proceedings#astc-content

Bibliography     :  จรรยา แหยมเจริญ, บุญฤทธิ์ รั่วสำราญ และ วรยศ คำลือ. (2561). ระบบค้นหาร้านอาหารด้วยการวิเคราะห์ส่วนบุคคล. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 6 (หน้า IT 487-IT 495). สมุทรปราการ: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.


Quick View

ระบบจัดการลางานออนไลน์: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยสยาม

 

Title              :  ระบบจัดการลางานออนไลน์: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยสยาม : Online Leave Management System: A Case Study of Siam University

Researcher       : ธนาภรณ์ รอดชีวิต และ สุจารี แย้มจินดา

Rodcheewit T. and Yamjinda S.

Department     :  ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                :   thanaporn.rod@siam.edu

บทคัดย่อ             :   งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบจัดการลางานออนไลน์ซึ่งจะช่วยอํานวยความสะดวกให้กับบุคลากรที่มีความประสงค์จะทําการลางานซึ่งบุคลากรสามารถบันทึกใบลาผ่านระบบได้ ผู้บังคับบัญชาสามารถทําการอนุมัติ และใบลาถูกส่งไปยังฝ่ายบุคคลได้ทันทีแบบอัตโนมัติ รวมถึงสามารถออกรายงานตามความต้องการได้ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการขออนุมัติ ผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลรายละเอียดในการลางานของตนเองได้สะดวกมากขึ้นและช่วยลดปริมาณการใช้กระดาษให้น้อยลงอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาระบบจัดการลางานออนไลน์ ที่ทํางานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเว็บแอปพลิเคชั่นและฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ในการพัฒนาโปรแกรมและจัดเก็บข้อมูลพัฒนาโดยเขียนชุดคําสั่งด้วยภาษา PHP, HTML และ JavaScript จัดการฐานข้อมูลด้วย MySQL รวมถึงติดตั้งเครื่องแม่ข่ายเว็บ (Web Server) ด้วย XAMPP

คําสําคัญ             :  ระบบจัดการลางานออนไลน์ การลางาน มหาวิทยาลัยสยาม

Abstract            :  The objective of this research is to develop the leave management system on an online platform in order to facilitate personnel who would like to request for a leave of absence.The Online Leave Management System enables personnel to record their absences in the corresponding form via the system. In addition, the supervisor can approve the absence request and immediately submit the leave letter to Human Resources Department on an automatic basis. Likewise, the report can be issued whenever needed, which consequently reduces the approval time.The system provides users with a convenient and easy access to the information regarding their absences, as well as an effective way of reducing paper consumption. The technology and tools that are used in the development of OnlineLeave Management Systemthat operates through an internet network include web application technologies and relational databases. The applications and data storagesare developed by programming commands inPHP, HTML, andJavaScript. The database is managed by MySQLand the web server is installed usingXAMPP. 

Keywords        :    Online Leave Management System,Absence, Siam University


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 5  The 5th Academic Science and Technology Conference 2017 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0” (Science and Technology as a Key Driver towards Thailand 4.0) วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม 2560  ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ผู้จัดหลัก: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

Link to Proceeding:    https://www.astcconference.com/page/proceedings#astc-content

Bibliography     :    ธนาภรณ์ รอดชีวิต และ สุจารี แย้มจินดา. (2560). ระบบจัดการลางานออนไลน์: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยสยาม. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 5 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0” (หน้า 1359-1366). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสยาม.


Quick View

ระบบตรวจสอบและวิเคราะห์การทำงานของฐานข้อมูล

 

Title              :  ระบบตรวจสอบและวิเคราะห์การทำงานของฐานข้อมูล : Database Monitoring and Analysis System

Researcher       :  จรรยา แหยมเจริญ, สหวัสส์ จันทวงศ์ และ วัชรพงษ์ อธิกิจโชติ

Department     :  ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                :   sah_jan@siam.edu

บทคัดย่อ             :   การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบตรวจสอบและวิเคราะห์การทำงานของระบบฐานข้อมูลให้เป็นอัตโนมัติ ลดภาระการทำงานของผู้ดูแลระบบฐานข้อมูลในการแก้ปัญหาของระบบฐานข้อมูลที่เกิดปัญหาเดิมซ้ำๆ กันเป็นประจำ โดยวิเคราะห์จากข้อมูลล็อกไฟล์ ที่ส่งมาจากเครื่องแม่ช่ายฐานข้อมูลที่ต่างแพลทฟอร์มกัน โดยประกอบด้วย Microsoft SQL Server, Oracle, IBM DB2 เป็นต้น
กระบวนการทำงานของระบบจะเริ่มตั้งแต่การตรวจสอบแพลทฟอร์ม เพื่อให้ทราบรูปแบบการจัดเรียงข้อมูลในล็อกไฟล์ และทำการแยกแยะข้อมูลและแปลงให้อยู่ในรูปแบบที่กำหนด นำไปจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลของระบบ จากนั้นทำการวิเคราะห์ข้อมูลทีละรายการว่าเป็น ข้อผิดพลาดหรือไม่ ถ้าใช่จะทำการค้นหาเปรียบเทียบกับข้อผิดพลาดที่บันทึกเป็นประวัติในฐานข้อมูล ถ้าพบข้อผิดพลาดที่ตรงกันจะทำการอ่านวิธีการแก้ไขปัญหา ซึ่งจะเป็นสคริปต์ ส่งไปยังเครื่องแม่ข่ายเพิ่อทำการแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่ถ้าเป็นข้อผิดพลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจะส่งไปยังผู้ดูแลระบบฐานข้อมูล เพื่อวิเคราะห์และทำการบันทึกแนวทางการแก้ปัญหาสำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิงในครั้งถัดไป ในการพัฒนาใช้ภาษา SQL เป็นหลัก โดยสร้าง Store Procedure และ Trigger เพื่อให้การทำงานเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังพัฒนาเว็บแอปพลิเคชั่นสำหรับผู้ดูแลระบบในการแจ้งเตือนและบันทึกข้อมูล รวมถึงดูผลการทำงานของเครื่องแม่ข่ายในรูปแบบกราฟด้วย ผลการทดสอบ ผู้ศึกษาได้จำลองระบบให้เสมือนระบบงานจริง และให้ผู้ดูแลระบบฐานข้อมูลได้ทดสอบประสิทธิภาพของระบบ และเก็บผลการประเมินด้วยแบบสอบถามประเมินประสิทธิภาพของระบบ มีระดับความพีงพอใจอยู่ในระดับที่คะแนนเฉลี่ย 3.10

คําสําคัญ             :  ระบบฐานข้อมูล, ผู้ดูแลระบบฐานข้อมูล, การวิเคราะห์ข้อมูล

Abstract            :  The objective of this research is to develop a system for monitoring and analyzing database system. Data administrator have to repeatedly look at report files from different server platforms such as Microsoft SQL Server, Oracle, and IBM DB2. This program can reduce the workload of data administrator. The system process consists of platform detection, data transformation and data analyzes. The system detects errors, and analyzes by using historical data in a database. Then the system will notify the errors to database administrator. The system has been developed by SQL language to create stored procedure, and trigger for performance. Also, the system has web application for database administrator to monitor the server’s performance with graphs. We have already tested the system by installing it in a virtual system and let a database administrator test its performance. After evaluation process from the test, the satisfaction level result is 3.10.

Keywords        :    database system, database administrator, data analysis


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 6  The 6th Academic Science and Technology Conference 2018 วันพุธที่ 6 มิถุนายน 2561  ณ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

Link to Proceeding:    https://www.astcconference.com/page/proceedings#astc-content

Bibliography     :  จรรยา แหยมเจริญ, สหวัสส์ จันทวงศ์ และ วัชรพงษ์ อธิกิจโชติ. (2561). ระบบตรวจสอบและวิเคราะห์การทำงานของฐานข้อมูล. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 6 (หน้า IT 310-IT 318). สมุทรปราการ: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.


Quick View

ระบบบันไดกําลังไฟฟ้าต่อหน่วยสําหรับการอนุรักษ์พลังงานเครื่องสูบน้ำแบบปรับความเร็วรอบได้ โดยการบูรณาการกฎความสัมพันธ์เข้ากับระเบียบวิธีกําลังสองน้อยที่สุด (2560)

Title              :  ระบบบันไดกําลังไฟฟ้าต่อหน่วยสําหรับการอนุรักษ์พลังงานเครื่องสูบน้ำแบบปรับความเร็วรอบได้ โดยการบูรณาการกฎความสัมพันธ์เข้ากับระเบียบวิธีกําลังสองน้อยที่สุด  : Per-Unit Power Ladder System for Energy Conservation of Variable Speed Pumps by Integrating Affinity Law with Least Square Method

Researcher       : โตมร สุนทรนภา

Department     :  ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม
E-mail                :  tomo.soo@siam.edu

บทคัดย่อ             :  บทความนี้เสนอเทคนิคในการประหยัดพลังงานเครื่องสูบจ่ายน้ำแบบปรับความเร็วรอบได้ด้วยการประยุกต์ใช้กฎความสัมพันธ์และการประมาณค่าพารามิเตอร์โดยวิธีกําลังสองน้อยที่สุด รวมเรียกว่าระบบบันไดกําลังไฟฟ้าต่อหน่วย ทําการศึกษากับเครื่องสูบน้ำชนิดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง จํานวน 4 เครื่อง ของสถานีสูบจ่ายน้ำ โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์จากการศึกษาวิจัยทําให้ได้แบบจําลองแรงดันสูงมอบ เงื่อนไขการสลับเครื่องสูบน้ำในลักษณะขึ้น-ลง และรูปแบบการจัดตารางที่เหมาะสมที่สุด เทคนิคที่นําเสนอได้นําไปทดสอบในการปฏิบัติงานจริง เมื่อนําดัชนีการใช้พลังงานต่อหน่วยผลผลิตมาใช้เป็นเกณฑ์เปรียบเทียบก่อนและหลังศึกษา พบว่าเทคนิคนี้สามารถทําให้เกิดผลประหยัดพลังงานได้มากกว่า 11.59 %
คำสำคัญ             : การอนุรักษ์พลังงาน, เครื่องสูบน้ำแบบปรับความเร็วรอบได้, กฎความสัมพันธ์, วิธีกําลังสองน้อยที่สุด

Abstract            :  This paper presents energy saving techniques for variable speed water pumps. By applying the
affinity law and estimating the least squares parameter, this is called the Per-Unit Power Ladder System. A study is conducted with four centrifugal pumps at distribution pumping station, Mahasawat water treatment plant. Based on the research results, the system provides delivery pressure models, pump-up switching conditions in up-down manner and the optimal scheduling patterns. The techniques presented are tested in actual operation. When the specific energy consumption index used as a comparison before and after study, it has been found that this technique can save energy more than 11.59%

Keywords         : energy conservation, variable speed pump, affinity law, least square method

Download PDF: ระบบบันไดกําลังไฟฟ้าต่อหน่วยสําหรับการอนุรักษ์พลังงานเครื่องสูบน้ำแบบปรับความเร็วรอบได้ โดยการบูรณาการกฎความสัมพันธ์เข้ากับระเบียบวิธีกําลังสองน้อยที่สุด


Link to Conference:   การประชุมวิชาการเครือข่ายพลังงานแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13 (E-NETT13th) วันที่ 31 พฤษภาคม – มิถุนายน 2560 , โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่.   


Bibliography    :  โตมร สุนทรนภา. (2560). ระบบบันไดกําลังไฟฟ้าต่อหน่วยสําหรับการอนุรักษ์พลังงานเครื่องสูบน้ำแบบปรับความเร็วรอบได้ โดยการบูรณาการกฎความสัมพันธ์เข้ากับระเบียบวิธีกําลังสองน้อยที่สุด. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการเครือข่ายพลังงานแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13 (E-NETT13th) วันที่ 31 พฤษภาคม – มิถุนายน 2560, โรงแรมดิเอ็มเพรส (หน้า 1267-1275). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยแม่โจ้.


Quick View

ระบบรักษาความปลอดภัยที่อยู่อาศัยด้วยโปรแกรมประยุกต์บนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์

 

Title              :  ระบบรักษาความปลอดภัยที่อยู่อาศัยด้วยโปรแกรมประยุกต์บนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ : Resident Security System with Application on Android Platform

Researcher       : จรรยา แหยมเจริญ และ วิวัฒน์ สถิรชาติ

Department     :  ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                :  janya008@gmail.com

บทคัดย่อ             :   ระบบรักษาความปลอดภัยที่อยู่อาศัยด้วยโปรแกรมประยุกต์บนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ เป็นการประยุกต์ความรู้ทางเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) บ้านอัจฉริยะ (Smart Home)คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) และอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย มาพัฒนา เนื่องจากที่อยู่อาศัยหรือบ้านเป็นปัจจัยที่สําคัญสําหรับมนุษย์และเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง และภายในบ้านประกอบด้วยทรัพย์สินที่มีค่าต่างๆ เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยให้กับทรัพย์สินภายในบ้าน จึงได้พัฒนาอุปกรณ์ไมโครคอนโทรลเลอร์ต้นแบบ ประกอบด้วยArduino ESP8266 NodeMCU 280 ทําหน้าที่แม่ข่ายให้บริการเว็บ (Web Server)
และเป็นตัวกลางในการติดต่อสื่อสารกับ PIR Motion Sensor ทําหน้าที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตและ PassiveBuzzer Module ทําหน้าที่แสดงเสียงแจ้งเตือน และพัฒนาเนทีฟแอพพลิเคชั่นที่ทํางานบนอุปกรณ์แอนดรอยด์เพื่อควบคุมการทํางานของอุปกรณ์ไมโครคอนโทรลเลอร์จากระยะไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และมีฟังก์ชั่นการแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบผู้บุกรุก โดยการส่งผ่านข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ไมโครคอนโทรลเลอร์และแอพพลิเคชั่นผ่านฐานข้อมูลที่เก็บอยู่บนคลาวด์คอมพิวติ้ง ในการเขียนโปรแกรมทางฝั่งอุปกรณ์ไมโครคอนโทรลเลอร์จะเขียนชุดคําสั่งผ่าน SDK ของ Arduino และฝั่งแอพพลิเคชั่นจะเขียนชุดคําสั่งด้วยAndroid SDK จัดเก็บข้อมูลลงในฐานข้อมูล SQLite ผลการทดสอบระบบสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตได้เท่านั้น กรณีเป็นสิ่งของเคลื่อนที่ผ่านตัวตรวจจับจะไม่สามารถตรวจจับได้ และเมื่อตรวจพบผู้บุกรุกแอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์แอนดรอยด์จะแสดงการแจ้งเตือนแบบทันทีทันใด ทําให้เจ้าของบ้านทราบและสามารถโทรแจ้งตํารวจได้ทันทีสําหรับการนําไปใช้งานจริงควรจะมีการศึกษาและเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และมีการเชื่อมต่อกับระบบกล้องวงจรปิดเพื่อให้สามารถดูภาพจากบ้าน ณเวลานั้นได้เลย

คําสําคัญ             :  บ้านอัจฉริยะ สิ่งของกับอินเทอร์เน็ต คลาวด์คอมพิวติ้ง ไมโครคอนโทรลเลอร์ ระบบรักษาความปลอดภัยที่อยู่อาศัย แอนดรอยด์

Abstract            :  Resident Security System with Application on Android Platform has adopted the knowledge and technology, such as Internet of Things (IoT), Smart Home, Cloud Computing and Mobile Wireless Device, wherewith the resident or home is the important factor for life and is the high value asset. Therefore, to secure the assets has developed microcontroller prototype which consist of Arduino ESP8266 NodeMCU 280 to be web server and communication central between PIR Motion Sensor module and Passive Buzzer module. Include to develop the native application which runs on Android platform for controlling the microcontroller by remote control via the Internet network and involve notification function when the sensor has detected the intruder. The microcontroller installed at home and the application communicate by data recorded on cloud computing. To program on microcontroller side has coding with Arduino SDK and Android application side has coding with Android SDK and record the data to SQLite DBMS. The results of the testing system is able to detect only the movement of organisms. When the movement of organisms has detected, the Android application will notify the homeowner immediately. For adoption in the future, should be studied more about powerful devices and connect to close circuit camera to visualize at that time.

Keywords        :    Smart Home, Internet of Things, Cloud Computing, Microcontroller, Resident Security System, Android


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 5  The 5th Academic Science and Technology Conference 2017 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0” (Science and Technology as a Key Driver towards Thailand 4.0) วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม 2560  ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ผู้จัดหลัก: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

Link to Proceeding:    https://www.astcconference.com/page/proceedings#astc-content

Bibliography     :    จรรยา แหยมเจริญ และ วิวัฒน์ สถิรชาติ. (2560). ระบบรักษาความปลอดภัยที่อยู่อาศัยด้วยโปรแกรมประยุกต์บนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 5 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0” (หน้า 1111-1119). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสยาม.


Quick View