ความพึงพอใจในการใช้บริการเงินฝากของลูกค้าธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ (2560)
บทคัดย่อ
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 41 – 50 ปี มีการศึกษาระดับปริญญาตรี และมีรายได้ 30,000 บาทขึ้นไป นอกจากนี้ผู้วิจัยยังพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ไปใช้บริการกับเพื่อนมากที่สุด มีความถี่ในการใช้บริการ 5 – 6 ครั้งต่อเดือน นิยมไปใช้บริการในวันพฤหัสบดี เวลาที่ไปใช้บริการคือ 14.01 น. – 16.00 น. และปัจจัยที่มีความพึงพอใจในการใช้บริการมากที่สุด ได้แก่ ปัจจัยด้านบุคลากร และปัจจัยที่มีความพึงพอใจน้อยที่สุด ได้แก่ ปัจจัยด้านสถานที่ให้บริการ ส่วนการทดสอบสมมติฐานพบว่า เพศ อายุ ระดับการศึกษา ระดับรายได้ต่อเดือน และอาชีพมีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในการใช้บริการธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ไปใช้บริการร่วมด้วย ความถี่ ในการใช้บริการ วันที่ไปใช้บริการ และเวลาที่ไปใช้บริการ มีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในการใช้บริการธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ
Abstract
This research aims to explore the personality, service factors and to study the satisfaction as well as study the factors that were relation between personality, service behavior and satisfaction on the service of Bangkok Bank, The Mall Tapha Branch. Sample group used consumers of Bangkok Bank, The Mall Tapha Branch totally 400 persons by using accidental random sampling and statistical method used in data analysis is frequency distribution, percentage, mean, and standard deviation and chi square is used to test hypothesis results, it is found by research results that The result of the study showed that most consumers were male, aged between 41 – 50 years, hold bachelor’s degree and earned up to 30,000 Baht. In addition, Most of them used service with friend, frequency of service were 5 – 6 times per month, preferred to used the service on Thursday, time the service were 14.01 – 16.00 and the satisfaction of most service was human factor and place factor was the least satisfied. For assumption test, it has found that sex, age, education level income per month and occupation were related to satisfaction on the service of Bangkok Bank, The Mall Tapha Branch. Besides, it also has found that users to share service, frequency of use, date to used and time to use were related to satisfaction on the service of Bangkok Bank, The Mall Tapha Branch.
Bibliography :
รุ่งโรจน์ สงสระบุญ, วิบูลย์ ชินบูรพา, โสภิดา ทะสังขา, พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก และสัมฤทธิ์ เทียนดำ. (2560). ความพึงพอใจในการใช้บริการเงินฝากของลูกค้าธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ. ใน การประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครั้งที่ 7 (หน้า 1 – 10), นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
Link to Research: ความพึงพอใจในการใช้บริการเงินฝากของลูกค้าธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ: Satisfaction on the Service of Customers’ Deposit Account Service of Bangkok Bank, the Mall Tapha Branch
ปัจจัยทางการตลาด ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม
Title : ปัจจัยทางการตลาด ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม : Marketing Factors Influencing Contact Lens Purchasing Decision in Facebook.com
Researcher : นางสาวณัฐชญา ชัยผดุง¹ และ ดร. พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก²
Department : ¹นักศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสยาม 10160 ²อาจารย์ที่ปรึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสยาม 10160
E-mail : ผู้ประสานงานหลัก:
บทคัดย่อ : วัตถุประสงค์ในการศึกษาครั้งนี้ (1) เพื่อศึกษาปัจจัยทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม (2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดกับการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม (3) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม กลุ่มตัวอย่างคือ ลูกค้าที่ซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม โดยไม่จำกัดอายุ จำนวน 400 คน โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Random Sampling) สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ สถิติเชิงพรรณนา ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson Product-Moment Correlation Coefficient) การสร้างสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณด้วยวิธี Stepwise ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมีอายุ 18 – 25 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 – 30,000 บาท มูลค่าเฉลี่ยในการซื้อคอนแทคเลนส์แต่ละครั้ง 201 – 300 บาท ส่วนใหญ่ใช้คอนแทคเลนส์ประเภทรายเดือน ยี่ห้อ Bausch & Lomb บุคคลที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อคอนแทคเลนส์คือ ตนเอง แหล่งข้อมูลของคอนแทคเลนส์มาจากสื่อโฆษณาทางอินเตอร์เน็ต มีการเปรียบเทียบคอนแทคเลนส์ในแต่ละยี่ห้อก่อนตัดสินใจซื้อ โดยวัตถุประสงค์ในการใส่คอนแทคเลนส์เพื่อแก้ปัญหาความผิดปกติของสายตา ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์เป็นอันดับหนึ่ง อยู่ในระดับมาก โดยให้ความสำคัญกับคอนแทคเลนส์มีการแสดงข้อมูลส่วนประกอบต่าง ๆ และวิธีการใช้ชัดเจน มากที่สุด รองลงมา เป็นปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด ปัจจัยด้านการบอกต่อ และปัจจัยด้านช่องทางในการจัดจำหน่าย ตามลำดับ ปัจจัยทางการตลาดที่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม พบว่าปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านช่องทางในการจัดจำหน่าย ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด และปัจจัยด้านการบอกต่อ มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ในการวิเคราะห์ปัจจัยทางการตลาดที่มีอิทธิผลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม โดยนำตัวแปรอิสระเข้าสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ ทั้ง 5 ตัวแปร พบว่า ตัวแปรอิสระ 4 ตัวแปร เข้าสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ ได้แก่ 1. ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ 2. ปัจจัยด้านราคา 3. ปัจจัยด้านช่องทางในการจัดจำหน่าย และ 4. ปัจจัยด้านการบอกต่อ แต่ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาดไม่มีอิทธิผลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม
คําสําคัญ : ปัจจัยทางการตลาด คอนแทคเลนส์ การตัดสินใจเลือกซื้อคอนแทคเลนส์ เฟสบุ๊คดอทคอม
Abstract : This reseach aims (1) to study the Marketing factors influencing to purchasing decision of Contact Lens in Facebook.com. (2) to study the relationship model of marketing factors to make purchasing decision of Contact Lens in Facebook.com. (3) to analyze the factors affecting to purchasing decisions of Contact Lens in Facebook.com. The sample consisted of customer who purchased contact lens in Facebook.com and no aged limit. Sampling were done of 400 people with a purposive random sampling method by descriptive statistics, the average percentage and standard deviation. The correlation was used to Pearson Product-Moment Correlation Coefficient and a multiple linear regression with stepwise. The results of study showed that most of samples were female, 18-25year old, graduated in Bachelor’s degree, were private company employees, average monthly income ranging from 20,001 – 30,000 Baht. The average cost of buying contact lens each time was around 201 – 300 Baht. Most people used to monthly contact lens which made by Bausch & Lomb. Most of them were influenced by online advertising and choice the contact lens by themselves. They were also compare each brand before making a purchase. For the purpose of wearing contact lens was to solve the sight problem. Questionaire answerer attaches great importance to product factor. Especially the contact lens that showed component details and instruction clearly. Second, the price factor, marketing promotion factor, buzz factor and distribution factor respectively. Marketing factor relating to buying a contact lens in Facebook. Product factor, price factor, distribution factor marketing, promotion factor and buzz factor had a positive relationship with the decision to buy contact lens in Facebook significantly on the statistics at 0.01 on analyzing market factor which influencing decision to buy contact lens in Facebook. By applying independent variables to multiple linear regression equation with all 5 factors. As a result, product factor, price factor, distribution factor and buzz factor apply into multiple linear regression equation but the marketing promotion factor had no effect on the decision to buy contact lens in Facebook.
Keywords : Marketing Factors, Contact Lens, Contact Lens Purchasing Decision, Facebook.com
Donwload PDF : ปัจจัยทางการตลาด ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม
Proceeding : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” ศูนย์บริการวิจัย และ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมกับ เครือข่ายวิจัยประชาชื่น วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2561 ณ ห้องประชุมหอประวัติและพิพิธภัณฑ์ ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ อาคาร 6 ชั้น 7 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
Link to Proceeding: http://www.dpu.ac.th/conference/
Bibliography : ณัฐชญา ชัยผดุง และ พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก. (2561). ปัจจัยทางการตลาด ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” (หน้า 266-276). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของผู้บริโภครุ่นเจนวาย ในประเทศไทย
Title : ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของผู้บริโภครุ่นเจนวาย ในประเทศไทย : Factors Influencing Buying Decision Process for Dietary Supplements of Gen Y Consumers in Thailand
Researcher : นางสาวกันต์กนก ชัยผดุง¹ และ ดร. พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก²
Department : ¹นักศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสยาม 10160 ²อาจารย์ที่ปรึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสยาม 10160
E-mail : ผู้ประสานงานหลัก:
บทคัดย่อ : การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดกับการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย 3) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงสำรวจ เก็บข้อมูลโดยการใช้แบบสอบถามผ่านทางอินเทอร์เน็ต กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้บริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรุ่นเจนวายในประเทศไทยที่สามารถเล่น Social Media ได้ จำนวน 400 คน ด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (purposive sampling) สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ สถิติเชิงพรรณนา ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson product moment correlation coefficient) และการสร้างสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ ด้วยวิธี Stepwise
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อยู่ในช่วงอายุ 26 – 30 สถานภาพโสด ประกอบอาชีพรับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ระดับการศึกษาปริญญาตรี ระดับรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 30,000
บาทขึ้นไป วัตถุประสงค์ในการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อันดับแรก คือ เพื่อบำรุงสุขภาพ และทราบแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากอินเทอร์เน็ต ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านการโฆษณา และ ปัจจัยด้านการตลาดทางตรง การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดกับการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของ
ผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทยใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์ พบว่า ปัจจัยทางการตลาดทุกตัวมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย ทำโดยสร้างสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ ด้วยวิธี Stepwise สามารถอธิบายได้ว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย ได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านการโฆษณา และ ปัจจัยด้านการตลาดทางตรง โดยปัจจัยด้านการโฆษณามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทยมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ปัจจัยด้านราคาและปัจจัยด้านการตลาดทางตรงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทยน้อยที่สุด
คําสําคัญ : การตัดสินใจซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผู้บริโภครุ่นเจนวาย
Abstract : This research aims 1) to study the factors affecting to buying decisions process of dietary supplements of Gen Y consumers in Thailand. 2) to study the relationship model of marketing factors to make buying decisions of dietary supplements of Gen Y consumers in Thailand. 3)to analyze the factors affecting to buying decisions process of dietary supplements of Gen Y consumers in Thailand. This paper was a survey research in which a questionnaire was used to as an instrument to collect data via internet. Sample consisted of people consuming dietary supplements who can used internet. Sampling were done of 400 people with a purposive sampling method by descriptive statistics, the average percentage and standard deviation. The correlation was used to pearson product moment correlation coefficient and a multiple linear regression with stepwise.
The results of the study showed that most of samples were female, 26-30 year old, single, occupation civil servant state enterprise employee, employed professionals with a bachelor’s degree, monthly income 30,000 baht or more, first objective of purchasing was maintain health, and received data from internet. Factors affecting to buying decisions process of dietary supplements were product price advertising and direct marketing. The result of correlation found that the marketing factors had positive correlation with the Gen Y consumers in Thailand who bought of dietary supplements at the statistically significant level of 0.01. Analyzing the factors influencing to buying decisions process of dietary supplements of Gen Y consumers in Thailand by multiple linear regression with stepwise found that marketing factors were influencing to buying decisions of dietary supplements with 4 variables were product price advertising and direct marketing. Advertising factor was most influencing. Following by product factor, price factor and direct marketing factor was slightest influencing.
Keywords : Buying decisions, Dietary supplements, Gen Y consumers
Donwload PDF : ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของผู้บริโภครุ่นเจนวาย ในประเทศไทย
Proceeding : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” ศูนย์บริการวิจัย และ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมกับ เครือข่ายวิจัยประชาชื่น วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2561 ณ ห้องประชุมหอประวัติและพิพิธภัณฑ์ ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ อาคาร 6 ชั้น 7 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
Link to Proceeding: http://www.dpu.ac.th/conference/
Bibliography : กันต์กนก ชัยผดุง และ พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก. (2561). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของผู้บริโภครุ่นเจนวาย ในประเทศไทย. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” (หน้า 277-286). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
พฤติกรรมและความพึงพอใจในการใช้บริการบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สาขาซีคอนบางแค
Title : พฤติกรรมและความพึงพอใจในการใช้บริการบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สาขาซีคอนบางแค: BEHAVIOR AND SATISFACTION OF USING THAILAND POST COMPANY LIMITED, SEACON BANGKAE BRANCH
Researcher : จิตระวี ทองเถา¹ และ ดร. พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก²
Department : ¹อาจารย์คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ²ผู้ช่วยคณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม
E-mail : jitravee@yahoo.com, pichmus@yahoo.com
บทคัดย่อ : วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อศึกษาลักษณะประชากรศาสตร์ พฤติกรรมการใช้บริการบริษัท ไปรษณีย์ไทยจํากัด สาขาซีคอนบางแค และความพึงพอใจในการใช้บริการบริษัทไปรษณีย์ไทย จํากัด สาขาซี คอนบางแค กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ผู้ใช้บริการบริษัทไปรษณีย์ไทย จํากัด สาขาซีคอนบาง แค จํานวน 400 คน ทําการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เก็บรวบรวมข้อมูลจาก แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน สําหรับผลการทดสอบสมมติฐานใช้สถิติทดสอบความสัมพันธ์แบบไคสแควร์ (Chi-square) ผลการวิจัย พบว่าผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 20 – 30 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี มีสถานภาพโสด มีอาชีพทํางานบริษัทเอกชน และมีระดับรายได้ต่อเดือน 30,000 บาทขึ้นไป พฤติกรรมของ ผู้ใช้บริการคือ การเลือกใช้บริการรับ-ส่งพัสดุในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้บริการเดือนละครั้ง ช่วงเวลา ที่ใช้บริการเวลา 12.01 – 16.00 น. และค่าใช้จ่ายในการใช้บริการต่อครั้ง ต่ํากว่า 50 บาท นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจในการใช้บริการบริษัทไปรษณีย์ไทย จํากัด สาขาซีคอนบางแค โดยรวมอยู่ใน ระดับมาก ความพึงพอใจมากที่สุด คือด้านราคาค่าบริการ รองลงมาคือด้านกระบวนการการให้บริการ และ มีความพึงพอในน้อยที่สุด คือด้านลักษณะกายภาพ ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ประชากรศาสตร์ ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ ต่อเดือน และพฤติกรรมในการใช้บริการที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด สาขา ซีคอนบางแค มีความสัมพันธ์กับ ความพึงพอใจในการใช้บริการ ด้านคุณภาพการให้บริการ ด้านราคาค่าบริการ ด้านบุคลากรที่ให้บริการ ด้าน กระบวนการให้บริการ
คำสำคัญ : พฤติกรรม, ความพึงพอใจ, บริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด
Abstract : This research aims to study the demographic, customers’ behavior, and customers’ satisfaction at Thailand Post Company Limited, Seacon Bangkae branch. The samples used for this study are 400 samples from people who servicing at Thailand Post Company Limited, Seacon Bangkae branch. This research was purposive sampling. Questionnaireswere used to collect data. The data was analyzed as frequency, percentage, mean, and standard deviation. For hypothesis testing was used chi-square. The results of the study showed that most customers are female, aged between 20-30 years old, hold bachelor’s degree, single, worked in private companies, and earned more than 30,000 baht. Customers’ behavior is the choice of courier services for domestic or oversea. They send 1 time per month. The time period is 12:01-4:00 pm. The expense per time is below 50 Baht. In addition, customers’ satisfaction at Thailand Post Company Limited, Seacon Bangkae branch overall was high level. The most satisfaction was price. Secondly, it was process. The lowest satisfaction was physical evidence.
The hypothesis testing revealed that demographic: gender, age, level of education, occupation and customers’ behavior of used Thailand Post Company Limited, Seacon Bangkae branch related to satisfaction: service quality, price, personal, process and physical evidence.
Keywords : Behavior, Satisfaction, Thailand Post Company Limited
Download PDF: พฤติกรรมและความพึงพอใจในการใช้บริการบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สาขาซีคอนบางแค
Proceeding : การประชุมวิชาการระดับชาติสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ประจำปี 2560 วันที่ 25 พฤษภาคม 2560 มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต APHEIT Conference 2017
Link to Proceeding: http://apheitconference.siam.edu/index.php/en/proceedings-2012-2016
Bibliography : จิตระวี ทองเถา และ พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก. (2560). พฤติกรรมและความพึงพอใจในการใช้บริการบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สาขาซีคอนบางแค. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ประจำปี 2560 (หน้า 200-209). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต.
รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุของปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานของโรงแรม 5 ดาวในประเทศไทย
Title : รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุของปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานของโรงแรม 5 ดาวในประเทศไทย: THE STRUCTURAL EQUATION MODEL OF CAUSAL FACTORS INFLUENCING PERFORMANCE OF FIVE STAR HOTELS IN THAILAND
Researcher : ดร. พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก Dr. Pichet Musikapodok
Department : Faculty of Business, Siam University, Bangkok, Thailand
E-mail : pichmus@yahoo.com
Abstract : วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาระดับปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานของโรงแรม 5 ดาว ในประเทศไทย และศึกษาความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุของปัจจัยด้านคุณภาพบริการโดยรวม การมุ่งเน้นตลาด และนวัตกรรมทางการตลาดที่มีผลต่อการดำเนินงานของโรงแรม 5 ดาวในประเทศไทย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ เจ้าหน้าที่บริหารโรงแรม 5 ดาวในประเทศไทย จำนวน 280 ตัวอย่าง การศึกษาครั้งนี้ใช้แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับตามแนวของไลเคิร์ท จำนวน 64 ข้อ เป็นเครื่องมือเก็บข้อมูล สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนสถิติที่ทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ การวิเคราะห์เส้นทางอิทธิพล (Path Analysis) และการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM) โดยรูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุที่พัฒนาขึ้นมีความกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ตลอดจนมีความสามารถในการพยากรณ์ได้ระดับดีและเป็นที่ยอมรับคิดเป็นร้อยละ 63.2 และความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุพบว่า ปัจจัยคุณภาพบริการโดยรวม การมุ่งเน้นตลาด และนวัตกรรมทางการตลาดมีความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุต่อการดำเนินงานของโรงแรม 5 ดาวในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
Key words : รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุการดำเนินงานโรงแรม 5 ดาว ในประเทศไทย
Publication : วารสารวิชาการบริหารธุรกิจ สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยฯ ปีที่ 5 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2559
Journal of Business Administration The Association of Private Higher Education Institutions of Thailand Vol.5 No.2 Jul-Dec 2016
Link to Publication: http://www.vu.ac.th/apheitvu/journal_v5n2.html
Download PDF : รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุของปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานของโรงแรม 5 ดาวในประเทศไทย
Bibliography : พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก. (2559). รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุของปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานของโรงแรม 5 ดาวในประเทศไทย. วารสารวิชาการบริหารธุรกิจ สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยฯ, 5(2), 134-145.
สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม (2560)
Title : สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม : Essential Competencies Required of New Graduates from Faculty of Business Administration, Siam University
Researcher : ดร.สัมฤทธิ์ เทียนดํา และ คณะ
Department : คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม 10160
E-mail : Sumrit.tia@siam.edu
บทคัดย่อ : วัตถุประสงค์ของการวิจัยในครั้งนี้ เพื่อศึกษาสมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม โดยใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ แบบการจัดการประชุมแบบสัมภาษณ์กลุ่ม ใน 5 ภาควิชา ได้แก่ ภาควิชาการบัญชี ภาควิชาการเงินและการธนาคาร ภาควิชาการตลาด ภาควิชาการจัดการทัวไป และภาควิชาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ ตามกรอบแนวคิดมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ของบัณฑิต ด้านทักษะทางปัญญา ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และความรับผิดชอบด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และด้านคุณธรรม/จริยธรรม และกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ประกอบการ ผู้บริหารในสถานประกอบการ และศิษย์เก่าที่สําเร็จ การศึกษาและทํางานแล้ว จํานวน 25 คน
ผลการศึกษาพบว่า 1) สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ภาควิชาการบัญชี ได้แก่ ความรู้ด้านบัญชีและการเงิน การติดต่อประสานงาน ความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน การใช้โปรแกรมสําเร็จรูปได้ดี มีความซื่อสัตย์ และรับฟังข้อเสนอแนะ 2) สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ภาควิชาการเงินและการธนาคาร ได้แก่ ความรู้ด้านการเงิน การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การทํางานเป็นทีม การใช้โปรแกรมสําเร็จรูปได้ดี และมีความซื่อสัตย์ 3) สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ภาควิชาการตลาด ได้แก่ ความรู้ด้านการตลาด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การทํางานเป็นทีม การใช้โปรแกรมสําเร็จรูปได้ดี และความอดทนในการทํางาน 4) สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ภาควิชาการจัดการทั่วไป ได้แก่ มีความรู้ตรงกับงานที่ทํา มีทักษะในการสังเกตุ การวางแผนธุรกิจ การใช้โปรแกรมสําเร็จรูปได้ดี มีความซื่อสัตย์และมีคุณธรรม 5) สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริ หารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ภาควิชาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ ได้แก่ ความรู้ด้านส่งออกและนําเข้า การติดต่อประสานที่ดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ สามารถทําการตลาดออนไลน์ได้ดี และมีความละเอียดรอบคอบ
ข้อเสนอแนะเพื่อนําผลการศึกษาไปใช้ มีแนวทางในการพัฒนาสมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ได้แก่ 1) การเตรียมความพร้อมให้กับบัณฑิตด้านทักษะภาษาต่างประเทศ เช่น จัดให้มีการเรียนรู้เพิ่มเติมในภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนให้กับบัณฑิต 2) การสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมที่ทําให้เกิดการเรียนรู้และการพัฒนาสมรรถนะของบัณฑิต 3) การวางแผนการเรียนให้รู้ให้กับบัณฑิต โดยกำหนดเป้าหมายของการเรียนรู้ให้ชัดเจน 3) การวินิจฉัยความจําเป็นของการพัฒนาสมรรถนะให้กับบัณฑิต รวมถึงการสร้างโอกาสสําหรับการปรับปรุ งพัฒนาตนเองของบัณฑิต 5) การกําหนดวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของการพัฒนาสมรรถนะของบัณฑิต ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ 6) การออกแบบแผนการเรียนรู้ให้กับบัณฑิตที่เหมาะสม เพื่อมุ่งสร้างสมรรถนะด้านความรู้ประสบการณ์ชีวิตให้กับบัณฑิต 7) การปรับปรุงหลักสูตรให้เหมาะสมกับความต้องการของบุคคล และสภาพสังคม จัดให้มีการเรียนการสอนวิชาการตลาดดิจิทัล วิชาการเป็นผู้ประกอบการ ธุรกิจสตาร์อัพ วิชาภาษาอาเซียน (CLMV) วิชาประสบการณ์ชีวิต และวิชาการสร้างนวัตกรรมใหม่ในกลุ่มวิชาแกนเพิ่มด้วย 8) มีการจัดกิจกรรมเพื่อใช้ในการพัฒนาสมรรถนะทางด้านการทําธุรกิจสมัยใหม่ เช่น กิจกรรมการฝึกอบรมในวิชาชีพ การมอบหมายงานจริงให้ปฎิบัติ การจัดตั้งชมรมผู้ประกอบการ และการจัดตั้งบริษัทจําลอง และ 9) มีการประเมินผลการพัฒนาสมรรถนะของบัณฑิต โดยประเมินทั้งเป็นแบบทางการ และแบบไม่เป็นทางการ เพื่อใช้ในการเปรียบผลลัพธ์กับเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ และการสังเกตพฤติกรรมของบัณฑิตระหว่างการพัฒนา เช่น การมีส่วนร่วม ความเอาใจใส่ ความตั้งใจ และความกระตือรือร้น
Abstract : The objective of this research was to study the essential competencies required of new graduates from the Faculty of Business Administration, Siam University by using the qualitative research method and group interviews in the five undergraduate degree programs: Accountancy, Finance and Banking, Marketing, General Management, and International Business Management. It was based on the standard conceptual framework of the National Qualifications Framework for Higher Education in Thailand in the five domains: knowledge of graduates, intellectual skills, interpersonal skills and responsibilities, analytical and communication skills and ethical and moral. The informants (population) consisted of 25 entrepreneurs who were in executives’ positions, and the alumni of Siam University.
The results of this study showed that 1) the essential competencies required of new graduates from the Faculty of Business Administration, Siam University in Accountancy program were the knowledge in accounting and finance, the coordination, and responsibility competencies, ability to use specific computer softwares in the field, be honest and listen to the suggestions; 2) the essential competencies required of new graduates from the Faculty of Business Administration, Siam University in Finance and Banking program were the knowledge of finance, the systematic problem-solving skill, teamwork skill, ability to use specific computer softwares in the field, and be honest; 3) the essential competencies required of new graduates from the Faculty of Business Administration, Siam University in Marketing program were the knowledge in marketing, the systematic problem-solving skill, teamwork skill, ability to use specific computer softwares in the field, and be patient to work; 4) the essential competencies required of new graduates from The Faculty of Business Administration, Siam University in General Management program were the knowledge of the area, the observative habit, ability to prepare business planning, ability to use specific computer softwares in the field, be honest and have virtue; 5) the essential competencies required of new graduates from The Faculty of Business Administration, Siam University in International Business Management program were the knowledge in international business, e.g. import and export, the coordinating competency and responsibilities, digital marketing skills, and thoroughness and accuracy habit. Suggestions for applying research findings in the development of the essential competencies required of new graduates from faculty of business administration, Siam University were 1) to enhance foreign language skills of the graduates, such as providing additional courses in English, Chinese and ASEAN languages; 2) to create appropriate atmosphere for learning and developing; 3) to set study plan with clear goal for undergraduate students; 4) to analyze the need of competency development for graduates including to create opportunities for self improvement; 5) to define the objectives or goals of the competency development for the programs to meet the need of entrepreneurs; 6) to design the appropiate learning plan to build the knowledge competency of life experience for graduates; 7) to improve the appropriate curriculum to meet individual needs and social conditions. Digital marketing subject, Startup business entrepreneurs subject, ASEAN language (CLMV), life experience subject and new innovation subject were recommended to add in the core subjects; 8) activities for the competency development of modern business such as professional training, the assignment of the actual job to perform, the establishment of entrepreneurial clubs and the establishment of a simulation company were suggested; and 9) evaluate competency development both formally and informally to compare the results with the goals; and observe the students’ behavior such as participation, attention, willingness and enthusiasm to learn throughout the semester.
Donwload PDF : รายงานการวิจัย เรื่อง สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม
Bibliography : สัมฤทธิ์ เทียนดํา, พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก, เปรมจิต พรหมสาระเมธี, กิตติชัย ถาวรธรรมฤทธิ์, วิบูลย์ ชินบูรพา, สมพร ปานยินดี, … พิจักษณ์ จันทวิโรจน์. (2560). สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสยาม.