ปัจจัยด้านการผลิตที่มีผลต่อการเพิ่มศักยภาพการส่งออกเสื้อผ้าสําเร็จรูป ของผู้ประกอบการในกรุงเทพมหานคร
Title : ปัจจัยด้านการผลิตที่มีผลต่อการเพิ่มศักยภาพการส่งออกเสื้อผ้าสําเร็จรูป ของผู้ประกอบการในกรุงเทพมหานคร : Factors of Production to Enhancement of Garment for Exports in Bangkok
Researcher : นางสาวสาวิตรี ปานเดย์ และ ดร.กานต์จิรา ลิมศิริธง
Department : Master of Business Administration, Siam University, Bangkok, Thailand
E-mail : rinapandey144@yahoo.com
บทคัดย่อ : การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ประกอบการธุรกิจเสื้อผ้าสําเร็จรูปในกรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านการผลิตเสื้อผ้าสําเร็จรูปในกรุงเทพมหานคร 3) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านการผลิตที่มีผลต่อการเพิ่มศักยภาพการส่งออกเสื้อผ้าสําเร็จรูปในกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ ผู้ประกอบการส่งออกเสื้อผ้าสําเร็จรูปในกรุงเทพมหานคร จํานวน 400 คน ทําการสุ่มตัวอย่างเป็นแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่การแจกแจงความถี่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติไคสแควร์ ผลการวิจัย พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุ 41–50 ปีมีระดับการศึกษาระดับอนุปริญญา และมีระยะเวลาดําเนินกิจการ 15 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ผู้วิจัยยังพบว่า ปัจจัยด้านการผลิตที่มีผลต่อการเพิ่มศักยภาพการส่งออกเสื้อผ้าสําเร็จรูปในกรุงเทพมหานครมากที่สุด คือ ด้านแรงงาน รองลงมา คือ วัตถุดิบ และด้านเงินทุนมีความสําคัญน้อยที่สุด การทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มศักยภาพการส่งออกเสื้อผ้าสําเร็จรูปในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ เพศ อายุระดับการศึกษา และระยะเวลาการดําเนินการ นอกจากนี้ยังพบว่า ปัจจัยด้านการผลิต ได้แก่ วัตถุดิบ เครื่องจักร แรงงาน และเงินทุน มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มศักยภาพการส่งออกเสื้อผ้าสําเร็จรูปในกรุงเทพมหานคร ที่ระดับนัยสําคัญ 0.05
คําสําคญั : ปัจจัยด้านการผลิต ศักยภาพการส่งออก เสื้อผ้าสําเร็จรูป
Abstract : This research aims 1) to study the individual factors of entrepreneurs of garment for exports in Bangkok. 2) to study factors of production of garment for exports in Bangkok. 3) to study factors of production to enhancement of garment for exports in Bangkok. The samples used for this study were 400 samples. Sampling was purposive sampling. Questionnaires were used to collect data. The data was analyzed as frequency, percentage, mean, and standard deviation. For hypothesis testing was used chi-square. The results showed that the majority of entrepreneurs of garment for exports in Bangkok were man, aged between 41–50 years old. Their highest educations were Diploma’s degree. The periods of work were more than 15 years. Moreover, it was also found that the factor of production affecting the enhancement of garment for exports in Bangkok most was Labor. The second most was raw material and the least was capital. The hypothesis testing revealed that individual factors related to enhancement of garment for exports in Bangkok were gender, age, education and periods of work. In addition, the researcher found that factor of production: raw materials, machinery, labor and capital related to enhancement of garment for exports in Bangkok at 0.05 level of significant
Key words : factors of production, enhancement of export, garment
Proceeding : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ปัญญาภิวัฒน์ ครั้งที่ 6 “นวัตกรรมเพื่อการส่งเสริมเศรษฐกิจไทยสู่โลกอนาคต” วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม 2559 ณ อาคารหอประชุม สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
Link to Proceeding: https://conference.pim.ac.th/thai/proceeding/
Bibliography : สาวสาวิตรี ปานเดย์และ กานต์จิรา ลิมศิริธง. (2559). ปัจจัยด้านการผลิตที่มีผลต่อการเพิ่มศักยภาพการส่งออกเสื้อผ้าสําเร็จรูป ของผู้ประกอบการในกรุงเทพมหานคร. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ปัญญาภิวัฒน์ ครั้งที่ 6 “นวัตกรรมเพื่อการส่งเสริมเศรษฐกิจไทยสู่โลกอนาคต” (หน้า A275-A283). กรุงเทพฯ: สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์.
ปัจจัยทางการตลาด ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม
Title : ปัจจัยทางการตลาด ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม : Marketing Factors Influencing Contact Lens Purchasing Decision in Facebook.com
Researcher : นางสาวณัฐชญา ชัยผดุง¹ และ ดร. พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก²
Department : ¹นักศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสยาม 10160 ²อาจารย์ที่ปรึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสยาม 10160
E-mail : ผู้ประสานงานหลัก:
บทคัดย่อ : วัตถุประสงค์ในการศึกษาครั้งนี้ (1) เพื่อศึกษาปัจจัยทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม (2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดกับการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม (3) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม กลุ่มตัวอย่างคือ ลูกค้าที่ซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม โดยไม่จำกัดอายุ จำนวน 400 คน โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Random Sampling) สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ สถิติเชิงพรรณนา ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson Product-Moment Correlation Coefficient) การสร้างสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณด้วยวิธี Stepwise ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมีอายุ 18 – 25 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 – 30,000 บาท มูลค่าเฉลี่ยในการซื้อคอนแทคเลนส์แต่ละครั้ง 201 – 300 บาท ส่วนใหญ่ใช้คอนแทคเลนส์ประเภทรายเดือน ยี่ห้อ Bausch & Lomb บุคคลที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อคอนแทคเลนส์คือ ตนเอง แหล่งข้อมูลของคอนแทคเลนส์มาจากสื่อโฆษณาทางอินเตอร์เน็ต มีการเปรียบเทียบคอนแทคเลนส์ในแต่ละยี่ห้อก่อนตัดสินใจซื้อ โดยวัตถุประสงค์ในการใส่คอนแทคเลนส์เพื่อแก้ปัญหาความผิดปกติของสายตา ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์เป็นอันดับหนึ่ง อยู่ในระดับมาก โดยให้ความสำคัญกับคอนแทคเลนส์มีการแสดงข้อมูลส่วนประกอบต่าง ๆ และวิธีการใช้ชัดเจน มากที่สุด รองลงมา เป็นปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด ปัจจัยด้านการบอกต่อ และปัจจัยด้านช่องทางในการจัดจำหน่าย ตามลำดับ ปัจจัยทางการตลาดที่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม พบว่าปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านช่องทางในการจัดจำหน่าย ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด และปัจจัยด้านการบอกต่อ มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ในการวิเคราะห์ปัจจัยทางการตลาดที่มีอิทธิผลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม โดยนำตัวแปรอิสระเข้าสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ ทั้ง 5 ตัวแปร พบว่า ตัวแปรอิสระ 4 ตัวแปร เข้าสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ ได้แก่ 1. ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ 2. ปัจจัยด้านราคา 3. ปัจจัยด้านช่องทางในการจัดจำหน่าย และ 4. ปัจจัยด้านการบอกต่อ แต่ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาดไม่มีอิทธิผลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม
คําสําคัญ : ปัจจัยทางการตลาด คอนแทคเลนส์ การตัดสินใจเลือกซื้อคอนแทคเลนส์ เฟสบุ๊คดอทคอม
Abstract : This reseach aims (1) to study the Marketing factors influencing to purchasing decision of Contact Lens in Facebook.com. (2) to study the relationship model of marketing factors to make purchasing decision of Contact Lens in Facebook.com. (3) to analyze the factors affecting to purchasing decisions of Contact Lens in Facebook.com. The sample consisted of customer who purchased contact lens in Facebook.com and no aged limit. Sampling were done of 400 people with a purposive random sampling method by descriptive statistics, the average percentage and standard deviation. The correlation was used to Pearson Product-Moment Correlation Coefficient and a multiple linear regression with stepwise. The results of study showed that most of samples were female, 18-25year old, graduated in Bachelor’s degree, were private company employees, average monthly income ranging from 20,001 – 30,000 Baht. The average cost of buying contact lens each time was around 201 – 300 Baht. Most people used to monthly contact lens which made by Bausch & Lomb. Most of them were influenced by online advertising and choice the contact lens by themselves. They were also compare each brand before making a purchase. For the purpose of wearing contact lens was to solve the sight problem. Questionaire answerer attaches great importance to product factor. Especially the contact lens that showed component details and instruction clearly. Second, the price factor, marketing promotion factor, buzz factor and distribution factor respectively. Marketing factor relating to buying a contact lens in Facebook. Product factor, price factor, distribution factor marketing, promotion factor and buzz factor had a positive relationship with the decision to buy contact lens in Facebook significantly on the statistics at 0.01 on analyzing market factor which influencing decision to buy contact lens in Facebook. By applying independent variables to multiple linear regression equation with all 5 factors. As a result, product factor, price factor, distribution factor and buzz factor apply into multiple linear regression equation but the marketing promotion factor had no effect on the decision to buy contact lens in Facebook.
Keywords : Marketing Factors, Contact Lens, Contact Lens Purchasing Decision, Facebook.com
Donwload PDF : ปัจจัยทางการตลาด ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม
Proceeding : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” ศูนย์บริการวิจัย และ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมกับ เครือข่ายวิจัยประชาชื่น วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2561 ณ ห้องประชุมหอประวัติและพิพิธภัณฑ์ ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ อาคาร 6 ชั้น 7 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
Link to Proceeding: http://www.dpu.ac.th/conference/
Bibliography : ณัฐชญา ชัยผดุง และ พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก. (2561). ปัจจัยทางการตลาด ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” (หน้า 266-276). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียม ศุภาลัย ปาร์ค ราชพฤกษ์-เพชรเกษม
Title : ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียม ศุภาลัย ปาร์ค ราชพฤกษ์-เพชรเกษม: BTHE MARKETING FACTORS AFFECTING TO BUYING DECISIONS OF SUPALAI PARK RATCHAPHRUEK-PHETKASEM CONDOMINIUM
Researcher : ดร.รุ่งโรจน์ สงสระบุญ และ ดร.สัมฤทธิ์ เทียนดำ
Department : Faculty of Business, Siam University, Bangkok, Thailand
E-mail : rrs101@hotmail.com
บทคัดย่อ : วัตถุประสงค์ในการศึกษาครั้งนี้ (1) เพื่อศึกษาปัจจัยทางการตลาดและระดับการตัดสินใจซื้อ คอนโดมิเนียม ศุภาลัย ปาร์ค ราชพฤกษ์-เพชรเกษม (2) เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียม ศุภาลัย ปาร์ค ราชพฤกษ์-เพชรเกษม (3) เพื่อวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ แบบเป็นขั้นตอน ในการวิเคราะห์ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียม ศุภาลัย ปาร์ค ราชพฤกษ์-เพชรเกษม กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม ศุภาลัย ปาร์ค ราชพฤกษ์-เพชรเกษม จำนวน 400 คน ด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ สถิติเชิงพรรณนา ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson Product Moment Correlation Coefficient) และการสร้างสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณด้วยวิธี Stepwise ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุ 31 – 50 ปี สถานภาพสมรส มีจำนวนสมาชิกในครอบครัว 2 คน ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้ต่อเดือน 30,001 – 40,000 บาท และมีการศึกษาระดับปริญญาตรี ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียม ศุภาลัย ปาร์ค ราชพฤกษ์-เพชรเกษม ทั้งหมด 4 ปัจจัย ได้แก่ ชื่อเสียงภาพลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ ท าเลที่ตั้ง และราคาและสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ ได้แก่ ŷ = 288(X5)+.195(X1)+.188(X3)+.142(X2) ; R2= 0.664
คำสำคัญ : ปัจจัยทางการตลาด, ชื่อเสียงภาพลักษณ์, การตัดสินใจซื้อ, คอนโดมิเนียม ศุภาลัย ปาร์ค ราชพฤกษ์-เพชรเกษม
Abstract : This research aims (1) to study the Marketing factors and level of buying decisions of Supalai Park Ratchaphruek-Phetkasem condominium. (2) to analyze the relationship model of marketing factors, The image factor to make buying decisions of Supalai Park Ratchaphruek-Phetkasem condominium. (3) to analyze stepwise multiple regression in assessing the factors affecting to buying decisions of Supalai Park Ratchaphruek-Phetkasem condominium. Sample consisted of people staying in Supalai Park RatchaphruekPhetkasem condominium. Sampling was done of 400 people with a purposive sampling method by descriptive statistics, the average percentage and standard deviation. The correlation was used to Pearson product moment correlation coefficient and a multiple linear regression with stepwise. The results of the study showed that most of samples were male, 31 – 50 years of age, married, 2 person in family, employed professionals with a bachelor’s degree and a monthly income between 30,001 – 40,000 baht. Marketing factors and The image factor were affecting to buying decisions of Supalai Park Ratchaphruek-Phetkasem condominium with 4 variables include the image, product, place and price and a multiple linear regression equation. Listed below;
ŷ = 288(X5)+.195(X1)+.188(X3)+.142(X2) ; R2= 0.664
Keywords : Marketing factors, The image factor, Buying decisions, Supalai Park Ratchaphruek-Phetkasem condominium
Proceeding : การประชุมวิชาการระดับชาติสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ประจำปี 2560 วันที่ 25 พฤษภาคม 2560 มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต APHEIT Conference 2017
Link to Proceeding: http://apheitconference.siam.edu/index.php/en/proceedings-2012-2016
Bibliography : รุ่งโรจน์ สงสระบุญ และ สัมฤทธิ์ เทียนดำ. (2560). ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียม ศุภาลัย ปาร์ค ราชพฤกษ์-เพชรเกษม. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ประจำปี 2560 (หน้า 188-199). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต.
ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้ออัญมณีของผู้บริโภค ที่จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์
Title : ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้ออัญมณีของผู้บริโภค ที่จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์ : Marketing Factors Affecting to Jewelry Buying Behavior of Customers at Jewelry Trade Center
Researcher : ลักษมี ปานเดย์ และ ดร.กานต์จิรา ลิมศิริธง
Department : Master of Business Administration, Siam University, Bangkok, Thailand
E-mail : pinky.p135@yahoo.com
บทคัดย่อ : การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาลักษณะประชากรศาสตร์ของผู้ที่มาเลือกซื้ออัญมณีที่จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์ 2) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเลือกซื้ออัญมณีของผู้บริโภคที่จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์และ 3) เพื่อศึกษาปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้ออัญมณีของผู้บริโภคที่ จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ ผู้ที่มาเลือกซื้ออัญมณีที่จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์จํานวน 400 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติไคสแควร์เพื่อทดสอบสมมติฐาน ผลการวิจัย พบว่า ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 31-50 ปีสถานภาพสมรส มีการศึกษาระดับปริญญาตรี มีอาชีพทํางานบริษัทเอกชน และมีรายได้เดือนละ 50,000 บาทขึ้นไป โดยผู้ที่มาเลือกซื้อแหวนมากที่สุด มีเหตุผลเพราะความสวยงาม และมีความถี่ในการใช้อัญมณี 3-5 ครั้งต่อเดือน นอกจากนี้ผู้วิจัย ยังพบว่าปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้ออัญมณีที่จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์มากที่สุด คือ ด้านราคา รองลงมาคือด้านผลิตภัณฑ์และด้านบุคลากรผู้วิจัยให้ความสําคัญน้อยที่สุด การทดสอบสมมติฐาน พบว่า ลักษณะประชากรศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเลือกซื้ออัญมณีของผู้บริโภคที่จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์ได้แก่ เพศ อายุสถานภาพสมรส ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ต่อเดือน นอกจากนี้ยังพบว่าปัจจัยทางการตลาด ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจําหน่าย ด้านการส่งเสริมทางการตลาด ด้านบุคลากรที่ให้บริการ ด้านกระบวนการให้บริการ และด้านลักษณะทางกายภาพ มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเลือกซื้ออัญมณีของผู้บริโภคที่จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์ที่ระดับนัยสําคัญ 0.05
คําสําคัญ : ลักษณะประชากรศาสตร์ปัจจัยการตลาด พฤติกรรมการเลือกซื้อ อัญมณ
Abstract : This research aims 1) to study the demographic of customers at jewelry trade center. 2) to study service behavior of customers at jewelry trade center. 3) to study the marketing mix affecting the behavior of customers at jewelry trade center. The samples used for this study are 400 samples. The data was analyzed as frequency, percentage, mean, and standard deviation. For hypothesis testing was used chi-square. The results showed that the majority of customers were married women, aged between 31-50 years old. Their highest education is bachelor’s degree. They work in private organizations and earn more than 50,000 baht per month. They chose to buy the ring. The reason was a beautiful and used jewelry 3-5 time per month. Moreover, it was also found that the marketing mix factors affecting the consumer behavior most is price. The second most is product and the least is staff The hypothesis testing revealed that demographic related to behavior of customers at jewelry trade center were gender, age, marital status, level of education, occupation, and income. In addition, the researcher found that marketing mix factors: product, price, place, promotion, people, process and physical evidence related to behavior of customers at jewelry trade center at 0.05 level of significant.
Key words : demographic, marketing factors, buying behavior, Jewelry
Proceeding : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ปัญญาภิวัฒน์ ครั้งที่ 6 “นวัตกรรมเพื่อการส่งเสริมเศรษฐกิจไทยสู่โลกอนาคต” วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม 2559 ณ อาคารหอประชุม สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
Link to Proceeding: https://conference.pim.ac.th/thai/proceeding/
Bibliography : ลักษมี ปานเดย์ และ กานต์จิรา ลิมศิริธง. (2559). ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้ออัญมณีของผู้บริโภค ที่จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ปัญญาภิวัฒน์ ครั้งที่ 6 “นวัตกรรมเพื่อการส่งเสริมเศรษฐกิจไทยสู่โลกอนาคต” (หน้า A214-A223). กรุงเทพฯ: สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์.
ปัจจัยที่มีผลต่อการรักษาโรคไม่ติดต่อตามแนวทางพุทธศาสนา Rungroje Songsraboon
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ (1) เพื่อสำรวจปัจจัยที่มีผลต่อการรักษาโรคไม่ติดต่อตามแนวทางพุทธศาสนา (2) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการรักษาโรคไม่ติดต่อตามแนวทางพุทธศาสนา (3) เพื่อศึกษาปัจจัยทำนายการรักษาโรคไม่ติดต่อตามแนวทางพุทธศาสนา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุและนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนที่เป็นโรคไม่ติดต่อ จำนวน 400 ตัวอย่าง ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ สถิติเชิงพรรณนา ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) และการสร้างสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุด้วยวิธี Stepwise
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 45 – 59 ปี มีการศึกษาระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพรับราชการ และเป็นโรคไขมันในเลือดสูง ปัจจัยตามแนวทางพุทธศาสนาที่มีผลต่อการมีสุขภาพดีมากที่สุด ได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และสามารถเขียนเป็นสมการพยากรณ์ได้ดังต่อไปนี้
การมีสุขภาพดี = .308การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์+.156การออกกำลังกาย+.144การปฏิบัติตนตามนาฬิกาชีวิต+.108การสวดมนต์+.104การนั่งสมาธิ: R2 = 0.658, SE = 0.378
งานที่อ้างถึง
รุ่งโรจน์ สงสระบุญ. (2559). ปัจจัยที่มีผลต่อการรักษาโรคไม่ติดต่อตามแนวทางพุทธศาสนา. วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร ฉบับภาษาไทย สาขาสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปะ, 36(3), 133-144.
Factors Affecting Therapy of the Non-Communicable Diseases (NCDs) According to Buddhism By Rungroje Songsraboon
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ (1) เพื่อศึกษาคุณภาพบริการโดยรวม การมุ่งเน้นตลาด นวัตกรรมทางการตลาด และการดำเนินงานของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย (2) เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุทางตรงและทางอ้อมของคุณภาพบริการโดยรวม การมุ่งเน้นตลาด นวัตกรรมทางการตลาดที่มีผลต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย ประชากร ได้แก่ เจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย จำนวน 207 ตัวอย่าง การศึกษาครั้งนี้ใช้แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับตามแนวของไลเคิร์ท จำนวน 64 ข้อ เป็นเครื่องมือเก็บข้อมูล สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนสถิติที่ทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ การวิเคราะห์เส้นทางอิทธิพล (Path Analysis) และการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM)
ผลการวิจัยพบว่า (1) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็กที่มีเตียงผู้ป่วย 10 – 100 เตียง และเป็นโรงพยาบาลประเภทรักษาโรคทั่วไป (2) ปัจจัยคุณภาพบริการโดยรวม การมุ่งเน้นตลาด และนวัตกรรมทางการตลาดมีผลทางตรงและทางอ้อมต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาลเอกชน และ (3) โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุที่พัฒนาขึ้นจากการวิจัยมีความเหมาะสม เนื่องจากมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ และแต่ละองค์ประกอบของโมเดลมีความเที่ยงตรง มีความสามารถในการพยากรณ์ได้ระดับดีและเป็นที่ยอมรับได้
คำสำคัญ: คุณภาพบริการโดยรวม, การมุ่งเน้นตลาด, นวัตกรรมทางการตลาด, การดำเนินงาน, โรงพยาบาลเอกชน
Abstract
The purpose of this research was (1) to study total service quality, market orientation, marketing innovation and performance of private hospitals. (2) to analyze the causal direct and indirect relationship of total service quality, market orientation, Marketing innovation towards performance of private hospitals. Samples consisted of executive officers of private hospitals in Thailand. Sampling was done of 207 people. The anonymous questionnaires of sixty-four items of five-point Likert scale. The data received were calculated and analyzed using descriptive statistics (frequency, percentage, mean and standard deviation). The path analysis was used to test the hypotheses. The Structural equation modeling: SEM was used to test performance of private hospitals model
The results of the study showed that (1) most samples are manager of small private hospital size with 10 – 100 beds and private hospitals of treatment of common diseases (2) total service quality, market orientation and marketing innovation direct and indirect to performance of private hospitals. The causal model developed is appropriate. Because they are consistent with the empirical data. Elements of the model are accurate (Validity) and have the ability to predict and are an acceptable level.
Keyword: Total Service Quality, Market Orientation, Marketing Innovation, Performance, Private Hospitals
งานที่อ้างถึง
รุ่งโรจน์ สงสระบุญ. (2559). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยธนบุรี, 10(22), 80-88.
FACTORS INFLUENCING PERFORMANCE OF PRIVATE HOSPITALS IN THAILAND By Rungroje Songsraboon
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของผู้บริโภครุ่นเจนวาย ในประเทศไทย
Title : ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของผู้บริโภครุ่นเจนวาย ในประเทศไทย : Factors Influencing Buying Decision Process for Dietary Supplements of Gen Y Consumers in Thailand
Researcher : นางสาวกันต์กนก ชัยผดุง¹ และ ดร. พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก²
Department : ¹นักศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสยาม 10160 ²อาจารย์ที่ปรึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสยาม 10160
E-mail : ผู้ประสานงานหลัก:
บทคัดย่อ : การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดกับการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย 3) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงสำรวจ เก็บข้อมูลโดยการใช้แบบสอบถามผ่านทางอินเทอร์เน็ต กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้บริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรุ่นเจนวายในประเทศไทยที่สามารถเล่น Social Media ได้ จำนวน 400 คน ด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (purposive sampling) สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ สถิติเชิงพรรณนา ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson product moment correlation coefficient) และการสร้างสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ ด้วยวิธี Stepwise
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อยู่ในช่วงอายุ 26 – 30 สถานภาพโสด ประกอบอาชีพรับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ระดับการศึกษาปริญญาตรี ระดับรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 30,000
บาทขึ้นไป วัตถุประสงค์ในการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อันดับแรก คือ เพื่อบำรุงสุขภาพ และทราบแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากอินเทอร์เน็ต ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านการโฆษณา และ ปัจจัยด้านการตลาดทางตรง การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดกับการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของ
ผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทยใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์ พบว่า ปัจจัยทางการตลาดทุกตัวมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย ทำโดยสร้างสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ ด้วยวิธี Stepwise สามารถอธิบายได้ว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย ได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านการโฆษณา และ ปัจจัยด้านการตลาดทางตรง โดยปัจจัยด้านการโฆษณามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทยมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ปัจจัยด้านราคาและปัจจัยด้านการตลาดทางตรงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทยน้อยที่สุด
คําสําคัญ : การตัดสินใจซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผู้บริโภครุ่นเจนวาย
Abstract : This research aims 1) to study the factors affecting to buying decisions process of dietary supplements of Gen Y consumers in Thailand. 2) to study the relationship model of marketing factors to make buying decisions of dietary supplements of Gen Y consumers in Thailand. 3)to analyze the factors affecting to buying decisions process of dietary supplements of Gen Y consumers in Thailand. This paper was a survey research in which a questionnaire was used to as an instrument to collect data via internet. Sample consisted of people consuming dietary supplements who can used internet. Sampling were done of 400 people with a purposive sampling method by descriptive statistics, the average percentage and standard deviation. The correlation was used to pearson product moment correlation coefficient and a multiple linear regression with stepwise.
The results of the study showed that most of samples were female, 26-30 year old, single, occupation civil servant state enterprise employee, employed professionals with a bachelor’s degree, monthly income 30,000 baht or more, first objective of purchasing was maintain health, and received data from internet. Factors affecting to buying decisions process of dietary supplements were product price advertising and direct marketing. The result of correlation found that the marketing factors had positive correlation with the Gen Y consumers in Thailand who bought of dietary supplements at the statistically significant level of 0.01. Analyzing the factors influencing to buying decisions process of dietary supplements of Gen Y consumers in Thailand by multiple linear regression with stepwise found that marketing factors were influencing to buying decisions of dietary supplements with 4 variables were product price advertising and direct marketing. Advertising factor was most influencing. Following by product factor, price factor and direct marketing factor was slightest influencing.
Keywords : Buying decisions, Dietary supplements, Gen Y consumers
Donwload PDF : ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของผู้บริโภครุ่นเจนวาย ในประเทศไทย
Proceeding : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” ศูนย์บริการวิจัย และ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมกับ เครือข่ายวิจัยประชาชื่น วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2561 ณ ห้องประชุมหอประวัติและพิพิธภัณฑ์ ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ อาคาร 6 ชั้น 7 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
Link to Proceeding: http://www.dpu.ac.th/conference/
Bibliography : กันต์กนก ชัยผดุง และ พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก. (2561). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของผู้บริโภครุ่นเจนวาย ในประเทศไทย. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” (หน้า 277-286). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
ปัจจัยนำการมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการ และผลการดำเนินงานองค์การ
[mfn]สมพร ปานยินดี. (2558). ปัจจัยนำการมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการ และผลการดำเนินงานองค์การ. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 9(2), 47-58.[/mfn] ปัจจัยนำการมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการ และผลการดำเนินงานองค์การ: Antecedents to Entrepreneurial Orientation and Impact on Firm Performance
สมพร ปานยินดี
ผลงานวิชาการ ดร.สมพร ปานยินดี – Somporn Panyindee
ปัญญาประดิษฐ์กับเนื้อหาวิชาในหลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์
ชื่อบทความ : ปัญญาประดิษฐ์กับเนื้อหาวิชาในหลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์ : Artificial Intelligence and Computer Science Curriculum
เจ้าของผลงาน : อาจารย์ปริวรรต องค์ศุลี
หน่วยงาน : อาจารย์ประจำ ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสยาม
E-mail : pariwatsiam@gmail.com
บทคัดย่อ : ในช่วงระยะเวลาประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของวิทยาการคอมพิวเตอร์ ได้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง โดยเฉพาะในสาขาย่อยคือ การเรียนรู้ของเครื่องจักร การประมวลผล ภาษาธรรมชาติ และ การรับรู้ของเครื่องจักร ในบทความนี้ผู้เขียนต้องการเสนอแนวคิดในการเพิ่มวิชาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้กับนักศึกษาในวิชาพื้นฐานเพื่อจะได้มีการเตรียมตัว และนำไปประยุกต์เพื่อให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ให้รองรับเทคโนโลยีนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการเพิ่มจำนวนของข้อมูล ความสะดวกรวดเร็วในการเข้าถึง และการนำอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน ยิ่งทำให้พัฒนาการทางด้านความฉลาดของเครื่องจักรมีความรุดหน้ามากยิ่งขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม หลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบันมีการเรียนการสอนในวิชาปัญญาประดิษฐ์เป็นส่วนน้อยต่อเนื้อหาวิชาทั้งหมด การนำเนื้อหาในส่วนที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้สำหรับเทคโนโลยีนี้ไปเสริมในวิชาที่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงน่าจะช่วยเตรียมความพร้อมต่อนักศึกษาสำหรับความเข้าใจในภาพรวม เพื่อที่จะนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีความสามารถในการแข่งขันได้ดีกว่าคู่แข่ง
คำสำคัญ : ปัญญาประดิษฐ์ การเรียนรู้ของเครื่องจักร การรับรู้ของเครื่องจักร
Abstract : The reemergence of Artificial Intelligence, the branch of Computer Science, during the past 5 years is prevalence. Machine learning, natural language processing and machine perception are among the topics that has been developed extensively. Moreover, the proliferation of data dues to the Internet, mobile technology and the Internet of things also accelerates the development of machine intelligence even further. However, only the small proportion of the Computer Science curriculum contains the subject of Artificial Intelligence. Therefore, the idea of this article is to prepare the foundation courses for computer science students in the subjects that are relevant, consequently, they can apply the technology to their product and/or service effectively
Keywords : Artificial Intelligence, Machine Learning, Machine Perception
Publication : วารสารวิชาการ ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ปีที่ 6 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2560 APHEIT JOURNAL SCIENCE TECHNOLOGY Vol.6 No.1 Jan-Jun 2017
Link to Publication: http://apheit.bu.ac.th/index.php?id=162
Bibliography : ปริวรรต องค์ศุลี. (2560). ปัญญาประดิษฐ์กับเนื้อหาวิชาในหลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์. วารสารวิชาการ ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย, 6(1), 100-107.
ผลกระทบของความสามารถในการฝ่าฟันอุปสรรค ความฉลาดทางอารมณ์ ที่มีต่อการมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการ และความสำเร็จของผู้ประกอบการเจนเนอเรชั่นวาย
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อทดสอบผลกระทบของตัวแปรสาเหตุได้แก่ ความสามารถในการฝ่าฟันอุปสรรค ความฉลาดทางอารมณ์ ที่มีต่อตัวแปรผลได้แก่ ความสำเร็จของผู้ประกอบการเจนเนอเรชั่นวาย โดยผ่านตัวแปรกลางคือการมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการ โดยมีตัวแปรแทรกคือสมรรถนะทางเทคโนโลยี เก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ประกอบการเจนเนอเรชั่นวาย ที่ประกอบธุรกิจอยู่ในกรุงเทพมหานคร ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ การวิเคราะห์ความถดถอยแบบพหุคูณ (multiple regression analysis) ผลวิจัย พบว่า 1) ความสามารถในการฝ่าฟันอุปสรรคมีผลกระทบทางบวกต่อการมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการ 2) ความฉลาดทางอารมณ์มีผลกระทบทางบวกต่อการมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการ 3) การมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการมีผลกระทบทางบวกต่อความสำเร็จของผู้ประกอบการเจนเนอเรชั่นวาย 4) สมรรถนะทางเทคโนโลยีไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างการมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการ และความสำเร็จของผู้ประกอบการ เจนเนอเรชั่นวาย
KEYWORDS: ความสามารถในการฝ่าฟันอุปสรรค, ความฉลาดทางอารมณ์, การมุ่งเน้น.
งานที่อ้างถึง
สมพร ปานยินดี. (2559). ผลกระทบของความสามารถในการฝ่าฟันอุปสรรค ความฉลาดทางอารมณ์ ที่มีต่อการมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการ และความสำเร็จของผู้ประกอบการเจนเนอเรชั่นวาย. วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร ฉบับภาษาไทย สาขาสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปะ, 36(3), 37-68.