สภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขการจัดการเรียนการสอนเนื้อหาเกี่ยวกับ จังหวะ

 

Title              :  สภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขการจัดการเรียนการสอนเนื้อหาเกี่ยวกับ จังหวะ : Title Problems and solutions of learning about rhythm

Researcher       : อนุวัฒน์ เขียวปราง

Department     :  วิทยาลัยดนตรีและศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยสยาม
E-mail                :  few_jigadee455@hotmail.com

บทคัดย่อ             :  บทความวิชาการนี้เป็นบทความที่แสดงความคิดเห็นถึงการจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับจังหวะ ซึ่งเป็นบทเรียนที่อยู่ภายใต้คำอธิบายรายวิชาทฤษฎีดนตรีสากล 1 ซึ่งวิชาดังกล่าวเป็นหนึ่งในวิชาที่ถูกบรรจุให้เป็นวิชาเอกของสาขาดนตรีในการศึกษาระดับอุดมศึกษา ด้วยสาเหตุที่ผู้สอนมีจำนวนคาบสอนในบทเรียนดังกล่าวอย่างจำกัด จึงส่งผลให้ผู้เรียนเกิดปัญหาความไม่เข้าใจจนสามารถสรุปปัญหาดังกล่าวได้เป็น 4 กรณี ได้แก่ 1. ความเข้าใจในลักษณะจังหวะเมื่อมีการนำโน้ตในแต่ละสัดส่วนมาจัดสรรให้เกิดความต่อเนื่องภายในห้องเพลง และ 2. ความเข้าใจในอัตราจังหวะต่างๆ 3. การกำหนดความยาวของเสียงเมื่อพบโน้ตที่มีเครื่องหมายการยืดค่าของโน้ต 4. การนับอัตราจังหวะธรรมแทนอัตราจังหวะผสม ใช้บทความนี้จึงได้มีการแสดงความคิดเห็นถึงกระบวนการสอนที่จะสามารถทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจ และตกผลึกทางด้านความรู้ โดยกำหนดจำนวนคาบสอนที่มีระยะเวลาที่จำกัดออกเป็น 2 ส่วนแล้วนำเนื้อหาจากบทเรียนที่ผู้สอนเล็งเห็นว่ามีความใกล้เคียงและต่อเนื่องนำมาอยู่ในระยะเดียวกัน มีการหยิบยกบทเพลงที่ผู้เรียนมีความคุ้นเคยในชีวิตประจำวันในการบรรยายเนื้อหาแต่ละครั้ง ผู้สอนควรใช้วิธีการอธิบายให้เห็นเป็นรูปธรรม ยกตัวอย่างเช่น การแสดงตารางเปรียบเทียบค่าของตัวโน้ต การกำหนดจังหวะเคาะให้ถูกต้องเพื่อความแม่นยำ ตลอดจนมีการหยิบยกบทเพลงที่ผู้เรียนมีความคุ้นเคยในชีวิตประจำวันมาเป็นตัวอย่าง เป็นต้น ซึ่งจะทำให้การเรียนการสอนมีความเหมาะสมกับจำนวนคาบที่จำกัด และเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ของผู้เรียนและพัฒนาไปสู่ทักษะที่ดีในการบรรเลงดนตรี

คำสำคัญ             :  การเรียนการสอน จังหวะ ทฤษฎีดนตร

Abstract            :  This article is an article that reviews the teaching and learning about rhythm. This is a lesson that the Course Description music theory courses such as the one of the courses that are packed into a major branch of music in higher education. Because the instructors have taught many lessons in such a limited period. As a result, the students do not understand the problem until the problem can be summarized into four cases. 1. Understanding the nature of the stroke when the proportion allocated to each note in the music room and the understanding of the rhythm 2. Understanding the rate and rhythm. 3. Determining the length of a note found on a stretch marks. Also worthy of note. 4. Count the beats of the rhythm fairly mixed. This article has been submitted to the process of teaching students to be able to understand. Has put forward a song that the students are familiar in everyday life in the narrative content each time. The instructor should explain how the concrete. For example compare the value of the notes. To determine the correct rhythm tapped for precision. It has put forward a song that the students are familiar in everyday life, as an example, which will make the course suitable for a limited number of sessions. And a deep understanding of the students. And to develop skills in music.

Keywords         :  Teaching, Rhythm, Music theory

Download PDF:   สภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขการจัดการเรียนการสอนเนื้อหาเกี่ยวกับ จังหวะ


Proceeding       :  การประชุมวิชาการระดับชาติ สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ประจำปี 2560 วันที่ 25 พฤษภาคม 2560 มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต APHEIT Conference 2017                               

Link to Proceeding:    http://apheitconference.siam.edu/index.php/en/proceedings-2012-2016


Bibliography    :  อนุวัฒน์ เขียวปราง. (2560). สภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขการจัดการเรียนการสอนเนื้อหาเกี่ยวกับ จังหวะ. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ประจำปี 2560 (หน้า 1047-1057). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต. 


Quick View

สมบัติการต้านจุลชีพและการต้านอนุมูลอิสระในอาหารหมักไทยบางชนิด

 

Title              :  สมบัติการต้านจุลชีพและการต้านอนุมูลอิสระในอาหารหมักไทยบางชนิด : Antimicrobial activities and antioxidant property of some Thai fermented foods

Researcher       :  สุภาพร พงษ์มณี, พุทธิพร จันทร์แฉ่ง และ บุษบา ปัญญา

Suphaporn Phongmanee, Putthiporn Junchang and Budsaba Phunya

Department     :  ภาควิชาเทคโนโลยีการอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                :   Supaporn.p@siam.edu

บทคัดย่อ             :   ศึกษาผลของอาหารหมักไทย 10 ชนิดต่อการต้านจุลชีพ Escherichia coli TISTR 780 และ Staphylococcus aureus TISTR 118 พบว่า น้ํามะนาวดองและกระเทียมดองสามารถยับยั้งการเจริญของ E. coli TISTR 780 ได้และหอยดองสามารถยับยั้งการเจริญได้ทั้ง E. coli TISTR 780 และ S. aureus TISTR 118 เมื่อทําการคัดแยกจุลินทรีย์กรดแลกติกจากอาหารหมักไทยทั้ง 10 ชนิด พบแบคทีเรียแลคติกจํานวน 22 ไอโซเลท โดยมีจุลินทรีย์ LEbK1และ LEbk2 ซึ่งแยกจากมะนาวดอง จุลินทรีย์ GLbb1 และ GLbb2 ซึ่งแยกจากกระเทียมดอง สามารถยับยั้งการเจริญของ E. coli TISTR 780 ได้ ส่วนจุลินทรีย์ SHmk1 และ SHmk2 ซึ่งแยกจากหอยดอง สามารถยับยั้งการเจริญได้ทั้ง E. coli TISTR 780 และ S. aureus TISTR 118 นอกจากนี้ผลการต้านอนุมูลอิสระของอาหารหมักไทย พบว่า น้ำปลาร้ามีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ (EC50) ต่ําสุดที่ 265.81 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร และ ขิงดองมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ (EC50) สูงสุดที่ 1,204.82 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร

คําสําคัญ             :  อาหารหมักไทย การต้านจุลชีพ การต้านอนุมูลอิสระ จุลินทรีย์กรดแลกติก

Abstract            :  Ten of Thai fermented foods were studied for antimicrobial activity against Escherichia coli TISTR 780 and Staphylococcus aureus TISTR 118. It were found that fermented lime and fermented garlic shown antimicrobial activity against Escherichia coli TISTR 780 and fermented mussel shown antimicrobial activity against E. coli TISTR 780 and also S. aureus TISTR 118. Lactic acid bacteria were isolation from fermented foods, it was found 22 isolation of lactic acid bacteria isolation, it was found 22 isolates. LEbk1 and LEbk2, isolated from fermented lime, as well as GLbb1 and GLbb2, isolated from fermented garlic, shown antimicrobial activity against only E. coli TISTR 780. While SHmk1 andSHmk2, isolated from fermented mussel against E. coli TISTR 780 also S. aureus TISTR 118. Furthermore, Antioxidant properties of ten fermented foods were analyzed. It was found that fermented fish, pla-ra, shown minimum activity, EC50 at 265.81 mg/ml while fermented ginger shown maximum antioxidant activity, EC50 at 1204.82 mg/ml.

Keywords        :    Fermented food, antimicrobial activity, antioxidants, Lactic acid bacteria


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 5  The 5th Academic Science and Technology Conference 2017 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0” (Science and Technology as a Key Driver towards Thailand 4.0) วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม 2560  ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ผู้จัดหลัก: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

Link to Proceeding:    https://www.astcconference.com/page/proceedings#astc-content

Bibliography     :    สุภาพร พงษ์มณี, พุทธิพร จันทร์แฉ่ง และ บุษบา ปัญญา. (2560). สมบัติการต้านจุลชีพและการต้านอนุมูลอิสระในอาหารหมักไทยบางชนิด. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 5 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0” (หน้า 556-561). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสยาม.


Quick View

สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม (2560)

Title              : สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม : Essential Competencies Required of New Graduates from Faculty of Business Administration, Siam University

Researcher       :  ดร.สัมฤทธิ์ เทียนดํา และ คณะ

Department     : คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม 10160

E-mail                : Sumrit.tia@siam.edu

บทคัดย่อ             : วัตถุประสงค์ของการวิจัยในครั้งนี้ เพื่อศึกษาสมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม โดยใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ แบบการจัดการประชุมแบบสัมภาษณ์กลุ่ม ใน 5 ภาควิชา ได้แก่ ภาควิชาการบัญชี ภาควิชาการเงินและการธนาคาร ภาควิชาการตลาด ภาควิชาการจัดการทัวไป และภาควิชาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ ตามกรอบแนวคิดมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ของบัณฑิต ด้านทักษะทางปัญญา ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และความรับผิดชอบด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และด้านคุณธรรม/จริยธรรม และกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ประกอบการ ผู้บริหารในสถานประกอบการ และศิษย์เก่าที่สําเร็จ การศึกษาและทํางานแล้ว จํานวน 25 คน
ผลการศึกษาพบว่า
1) สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ภาควิชาการบัญชี ได้แก่ ความรู้ด้านบัญชีและการเงิน การติดต่อประสานงาน ความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน การใช้โปรแกรมสําเร็จรูปได้ดี มีความซื่อสัตย์ และรับฟังข้อเสนอแนะ 2) สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ภาควิชาการเงินและการธนาคาร ได้แก่ ความรู้ด้านการเงิน การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การทํางานเป็นทีม การใช้โปรแกรมสําเร็จรูปได้ดี และมีความซื่อสัตย์ 3) สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ภาควิชาการตลาด ได้แก่ ความรู้ด้านการตลาด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การทํางานเป็นทีม การใช้โปรแกรมสําเร็จรูปได้ดี และความอดทนในการทํางาน 4) สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ภาควิชาการจัดการทั่วไป ได้แก่ มีความรู้ตรงกับงานที่ทํา มีทักษะในการสังเกตุ การวางแผนธุรกิจ การใช้โปรแกรมสําเร็จรูปได้ดี มีความซื่อสัตย์และมีคุณธรรม 5) สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริ หารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ภาควิชาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ ได้แก่ ความรู้ด้านส่งออกและนําเข้า การติดต่อประสานที่ดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ สามารถทําการตลาดออนไลน์ได้ดี และมีความละเอียดรอบคอบ
ข้อเสนอแนะเพื่อนําผลการศึกษาไปใช้
มีแนวทางในการพัฒนาสมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ได้แก่ 1) การเตรียมความพร้อมให้กับบัณฑิตด้านทักษะภาษาต่างประเทศ เช่น จัดให้มีการเรียนรู้เพิ่มเติมในภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนให้กับบัณฑิต 2) การสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมที่ทําให้เกิดการเรียนรู้และการพัฒนาสมรรถนะของบัณฑิต 3) การวางแผนการเรียนให้รู้ให้กับบัณฑิต โดยกำหนดเป้าหมายของการเรียนรู้ให้ชัดเจน 3) การวินิจฉัยความจําเป็นของการพัฒนาสมรรถนะให้กับบัณฑิต รวมถึงการสร้างโอกาสสําหรับการปรับปรุ งพัฒนาตนเองของบัณฑิต 5) การกําหนดวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของการพัฒนาสมรรถนะของบัณฑิต ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ 6) การออกแบบแผนการเรียนรู้ให้กับบัณฑิตที่เหมาะสม เพื่อมุ่งสร้างสมรรถนะด้านความรู้ประสบการณ์ชีวิตให้กับบัณฑิต 7) การปรับปรุงหลักสูตรให้เหมาะสมกับความต้องการของบุคคล และสภาพสังคม จัดให้มีการเรียนการสอนวิชาการตลาดดิจิทัล วิชาการเป็นผู้ประกอบการ ธุรกิจสตาร์อัพ วิชาภาษาอาเซียน (CLMV) วิชาประสบการณ์ชีวิต และวิชาการสร้างนวัตกรรมใหม่ในกลุ่มวิชาแกนเพิ่มด้วย 8) มีการจัดกิจกรรมเพื่อใช้ในการพัฒนาสมรรถนะทางด้านการทําธุรกิจสมัยใหม่ เช่น กิจกรรมการฝึกอบรมในวิชาชีพ การมอบหมายงานจริงให้ปฎิบัติ การจัดตั้งชมรมผู้ประกอบการ และการจัดตั้งบริษัทจําลอง และ 9) มีการประเมินผลการพัฒนาสมรรถนะของบัณฑิต โดยประเมินทั้งเป็นแบบทางการ และแบบไม่เป็นทางการ เพื่อใช้ในการเปรียบผลลัพธ์กับเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ และการสังเกตพฤติกรรมของบัณฑิตระหว่างการพัฒนา เช่น การมีส่วนร่วม ความเอาใจใส่ ความตั้งใจ และความกระตือรือร้น

Abstract            :  The objective of this research was to study the essential competencies required of new graduates from the Faculty of Business Administration, Siam University by using the qualitative research method and group interviews in the five undergraduate degree programs: Accountancy, Finance and Banking, Marketing, General Management, and International Business Management. It was based on the standard conceptual framework of the National Qualifications Framework for Higher Education in Thailand in the five domains: knowledge of graduates, intellectual skills, interpersonal skills and responsibilities, analytical and communication skills and ethical and moral. The informants (population) consisted of 25 entrepreneurs who were in executives’ positions, and the alumni of Siam University.

The results of this study showed that 1) the essential competencies required of new graduates from the Faculty of Business Administration, Siam University in Accountancy program were the knowledge in accounting and finance, the coordination, and responsibility competencies, ability to use specific computer softwares in the field, be honest and listen to the suggestions; 2) the essential competencies required of new graduates from the Faculty of Business Administration, Siam University in Finance and Banking program were the knowledge of finance, the systematic problem-solving skill, teamwork skill, ability to use specific computer softwares in the field, and be honest; 3) the essential competencies required of new graduates from the Faculty of Business Administration, Siam University in Marketing program were the knowledge in marketing, the systematic problem-solving skill, teamwork skill, ability to use specific computer softwares in the field, and be patient to work; 4) the essential competencies required of new graduates from The Faculty of Business Administration, Siam University in General Management program were the knowledge of the area, the observative habit, ability to prepare business planning, ability to use specific computer softwares in the field, be honest and have virtue; 5) the essential competencies required of new graduates from The Faculty of Business Administration, Siam University in International Business Management program were the knowledge in international business, e.g. import and export, the coordinating competency and responsibilities, digital marketing skills, and thoroughness and accuracy habit. Suggestions for applying research findings in the development of the essential competencies required of new graduates from faculty of business administration, Siam University were 1) to enhance foreign language skills of the graduates, such as providing additional courses in English, Chinese and ASEAN languages; 2) to create appropriate atmosphere for learning and developing; 3) to set study plan with clear goal for undergraduate students; 4) to analyze the need of competency development for graduates including to create opportunities for self improvement; 5) to define the objectives or goals of the competency development for the programs to meet the need of entrepreneurs; 6) to design the appropiate learning plan to build the knowledge competency of life experience for graduates; 7) to improve the appropriate curriculum to meet individual needs and social conditions. Digital marketing subject, Startup business entrepreneurs subject, ASEAN language (CLMV), life experience subject and new innovation subject were recommended to add in the core subjects; 8) activities for the competency development of modern business such as professional training, the assignment of the actual job to perform, the establishment of entrepreneurial clubs and the establishment of a simulation company were suggested; and 9) evaluate competency development both formally and informally to compare the results with the goals; and observe the students’ behavior such as participation, attention, willingness and enthusiasm to learn throughout the semester. 

Donwload PDF  :  รายงานการวิจัย เรื่อง สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม


Bibliography     :   สัมฤทธิ์ เทียนดํา, พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก, เปรมจิต พรหมสาระเมธี, กิตติชัย ถาวรธรรมฤทธิ์, วิบูลย์ ชินบูรพา, สมพร ปานยินดี, … พิจักษณ์ จันทวิโรจน์. (2560). สมรรถนะที่จําเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสยาม.


 

Quick View
สยามวิชาการ-siam academic review-มหาวิทยาลัยสยาม-ปีที่18ฉบับที่30-มีนาคม-กรกฎคม-2560

สยามวิชาการ ปีที่18 ฉบับที่30 ปี 2560

[mfn]ไชยนันท์ ปัญญาศิริ.  (2560).  กระบวนทัศน์การบริหารจัดการองค์การภาครัฐไทย: เปรียบเทียบการจัดการภาครัฐแนวใหม่ (NPM) กับ การบริการสาธารณะแนวใหม่ (NPS).  สยามวิชาการ, 18(30)1-20.[/mfn]    กระบวนทัศน์การบริหารจัดการองค์การภาครัฐไทย: เปรียบเทียบ การจัดการภาครัฐแนวใหม่ (NPM) กับ การบริการสาธารณะแนวใหม่ (NPS)
ไชยนันท์ ปัญญาศิริ


[mfn]ชุติภา จันทศร และ กิตติพันธ์ คงสวัสดิ์เกียรติ.  (2560).  การตัดสินใจใช้บริการร้านอาหารเกาหลี
ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล.  สยามวิชาการ, 18(30)21-34.[/mfn]    การตัดสินใจใช้บริการร้านอาหารเกาหลีในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ชุติภา จันทศร และ กิตติพันธ์ คงสวัสดิ์เกียรติ


[mfn]กมล สงบุญนาค และ ชัยยุทธ ชิโนกุล. (2560).  การศึกษาส่วนประสมทางการตลาดในพื้นที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย.  สยามวิชาการ, 18(30)35-53.[/mfn]    การศึกษาส่วนประสมทางการตลาดในพื้นที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
กมล สงบุญนาค และ ชัยยุทธ ชิโนกุล


[mfn]สุรชัย ภัทรบรรเจิด.  (2560).  นโยบายจ่ายหุ้นปันผลแบบกำหนดสัญญาสำหรับผู้ประกอบการ.  สยามวิชาการ, 18(1), 54-71.[/mfn]    นโยบายจ่ายหุ้นปันผลแบบกำหนดสัญญาสำหรับผู้ประกอบการ
สุรชัย ภัทรบรรเจิด


[mfn]วราภรณ์ ลิ้มเปรมวัฒนา และ เอกภพ มณีนารถ.  (2560).  องค์ประกอบปัจจัยทางการตลาดและพฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร.  สยามวิชาการ, 18(30)72-92.[/mfn]    องค์ประกอบปัจจัยทางการตลาดและพฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร
วราภรณ์ ลิ้มเปรมวัฒนา และ เอกภพ มณีนารถ


[mfn]ภาณุพงศ์ ลีลากิจกุล.  (2560).  การพัฒนาแบบจำลองพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อสินค้าเครื่องสำอางไทยในตลาดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว.  สยามวิชาการ, 18(30)93-105.[/mfn]    การพัฒนาแบบจำลองพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อสินค้าเครื่องสำอางไทยในตลาดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ภาณุพงศ์ ลีลากิจกุล

Quick View
สยามวิชาการ-siam academic review-มหาวิทยาลัยสยาม-ปีที่18ฉบับที่30-มีนาคม-กรกฎคม-2560

องค์ประกอบปัจจัยทางการตลาดและพฤติกรรมการซื้อ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของวัยรุ่นในเขต กรุงเทพมหานคร (2560)

 

[mfn]วราภรณ์ ลิ้มเปรมวัฒนา และ เอกภพ มณีนารถ.  (2560).  องค์ประกอบปัจจัยทางการตลาดและพฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร.  สยามวิชาการ, 18(30)72-92.[/mfn]    องค์ประกอบปัจจัยทางการตลาดและพฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร
วราภรณ์ ลิ้มเปรมวัฒนา และ เอกภพ มณีนารถ

อาจารย์ประจําภาควิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม


Abstract: The research on “Marketing Factors and Purchasing Behavior of Environmentally Friendly Products of Teenagers in Bangkok Metropolitan Area” has the objective for 1) studying
the marketing factor effective to the purchase of environmentally friendly products of teenagers in Bangkok Metropolitan Area 2) studying the purchasing behavior of environmentally friendly products of teenagers in Bangkok Metropolitan Area. The samples used in this research are 400 teenagers having their ages in between 15 – 24 years old living in Bangkok Metropolitan Area who purchased environmentally friendly products. The statistics used in the data analysis are percentage, mean, standard deviation, and factor analysis. The result of the research found that the marketing factors used in deciding to purchase the environmentally friendly products consisted of 3 factors, they are 1) Product, brand, and packaging, 2) Promotion and how to pay money in different forms, and 3) Reasonable prices and purchasing convenience.

Keywords:  Marketing Factors, Purchasing Behavior, Environmentally Friendly Products, Teenagers


Bibliography: วราภรณ์ ลิ้มเปรมวัฒนา และ เอกภพ มณีนารถ.  (2560).  องค์ประกอบปัจจัยทางการตลาดและพฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร.  สยามวิชาการ, 18(30)72-92.


สยามวิชาการ ปีที่18 ฉบับที่30 ปี 2560

Quick View

อาการปวดหัวไมเกรน (2560)

อาการปวดหัวไมเกรน (2560)

ผู้เขียนบทความ: อ.ภก.ภูมิสิริ วุฒิวงค์

บทคัดย่อ:

อาการปวดหัวไมเกรนเป็นความผิดปกติของระบบประสาทที่พบได้บ่อย และส่งผลกับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย โดยมีการศึกษาถึงความชุกในการเกิดอาการปวดหัวไมเกรนในชาวแคนาดา พบว่าอาการปวดดังกล่าวจะพบในเพศหญิงร้อยละ 23-26 และพบในเพศชายร้อยละ 7.8-10 ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของอาการปวดหัวไมเกรนอย่างแน่ชัด มีแนวคิดที่ใช้อธิบายสาเหตุของอาการปวดหัวไมเกรน 2 แนวคิด คือ vascular theory ที่เชื่อว่าเกิดภาวะหลอดเลือดขยายตัวจึงทำให้เกิดอาหารปวดหัว และ inflammation hypothesis ซึ่งเชื่อว่าอาการปวดเกิดจากสารก่อการอักเสบบางชนิด เช่น calcitonin gene related peptide (CGRP) และ substance P (SP) ทำให้เกิดภาวะ neurogenic inflammation โดยคำอธิบายถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น เกิดจากภาวะ cortical spreading depression (CSD) โดย CSD เป็นสัญญาณการส่งกระแสประสาทอย่างช้าๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณ occipital lobe ของสมอง หลังจากเกิดสัญญาณ CSD สัญญาณจะเดินทางไปที่ migraine center แล้วส่งสัญญาณผ่าน trigeminal nerve (CN V) ทำให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือดภายนอกกะโหลก นอกจากนี้สัญญาณ CSD หากมีปริมาณมาก อาจมีการส่งสัญญาณไปที่ prefrontal cortex เกิดเป็นกลุ่มอาการแทรกซ้อนของไมเกรนอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่า aura

คำสำคัญ:

Link to Academic article: อาการปวดหัวไมเกรน

Quick View

เภสัชเศรษฐศาสตร์ (2560)

เภสัชเศรษฐศาสตร์ (2560)

ผู้เขียนบทความ: อ.ภก.พิธาน โฆษิตชัยวัฒน์

บทคัดย่อ:

ประเทศไทยมีความต้องการในการใช้ทรัพยากรด้านสุขภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ ในสถานการณ์เช่นนี้เราจะต้องหาวิธีการเพื่อช่วยจัดสรรทรัพยากรทางด้านสุขภาพที่มีอยู่อย่างจำกัด วิธีการหนึ่งที่เภสัชกรสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยจัดสรรทรัพยากรดังกล่าวได้แก่การนำความรู้ด้านเภสัชเศรษฐศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้การเปรียบเทียบต้นทุนและผลได้ของผลิตภัณฑ์และการบริการทางเภสัชกรรมมาเป็นเครื่องมือวัดและประเมินเพื่อหาทางเลือกที่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์มากที่สุด แต่ไม่ใช่เพื่อหาวิธีที่ถูกที่สุดหรือมีประสิทธิผลที่สุด บทความนี้แนะนำความรู้พื้นฐานที่สำคัญด้านเภสัชเศรษฐศาสตร์แก่เภสัชกรและวิธีการประเมินทางด้านเศรษฐศาสตร์ที่นำมาใช้อย่างแพร่หลายซึ่งมีสี่วิธี ได้แก่การวิเคราะห์ต้นทุนต่ำสุด (CMA) การวิเคราะห์ต้นทุนผลได้ (CBA) การวิเคราะห์ต้นทุนประสิทธิผล (CEA) และ การวิเคราะห์ต้นทุนอรรถประโยชน์ (CUA) รวมถึงข้อดีและข้อเสียของการประเมินทั้งสี่วิธี นอกจากนี้บทความยังแนะนำมาตรฐานทางเภสัชเศรษฐศาสตร์ที่สำคัญและกล่าวถึงข้อจำกัดของเภสัชเศรษฐศาสตร์ และการนำเภสัชเศรษฐศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในวิชาชีพเภสัชกรรม

คำสำคัญ:  เภสัชเศรษฐศาสตร์, การวิเคราะห์ต้นทุนต่ำสุด (CMA), การวิเคราะห์ต้นทุนผลได้ (CBA)

Link to Academic article:   เภสัชเศรษฐศาสตร์ 

Quick View

เมื่อพร้อมเพย์ก็ควรจะพร้อมออม (2560)

 

Title              :  เมื่อพร้อมเพย์ก็ควรจะพร้อมออม : Prompt Pay should come with Prompt Saving

Researcher       : สุรชัย ภัทรบรรเจิด และ มนทิรา อารีพรสมสุข

Surachai Pattarabanjird and Monthira Tantrawanich

Department      :  Faculty of Business Administration , Siam University, Bangkok, Thailand

E-mail                 :  spsmart99@hotmail.com,  monthira@siam.edu

บทคัดย่อ              :   ระบบพร้อมเพย์ เป็นบริการโอนเงินและรับเงินทางเลือกใหม่ในการธุรกรรมทางการเงิน โดยใช้หมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่แทนที่บัญชีเงินฝากธนาคาร อาทิ การโอนเงินเพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการในชีวิตประจำวัน การจ่ายสวัสดิการของภาครัฐ รวมถึงการคืนเงินภาษีแก่ประชาชน โดยเปิดการลงทะเบียนใช้ระบบนี้ผ่านธนาคารต่างๆ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 และลูกค้านิติบุคคลสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป ระบบนี้เป็นแนวคิดในการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ตามนโยบายระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ โดยระบบการชำระเงินจะเป็นการผูกบัญชีเงินฝากธนาคารกับหมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชน อันจะทำให้การชำระเงินและการโอนเงินเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น แต่ระบบนี้อาจส่งผลกระทบด้านภาระหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นและส่งผลกระทบต่อการออม ดังนั้น ผู้เขียนจึงใคร่ขอเสนอการนำระบบพร้อมออมมาใช้ร่วมกับระบบพร้อมเพย์ จะช่วยให้ผู้บริโภคเกิดการออมขึ้นเมื่อมีการใช้จ่าย และระบบพร้อมออมจะช่วยให้ผู้บริโภคมีวินัยและความรอบคอบในการใช้จ่ายให้มากขึ้น

คำสำคัญ              :  พร้อมเพย์, เศรษฐกิจดิจิทัล, พร้อมออม, กองทุนการออมแห่งชาติ, ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ

Abstract            : Prompt Pay is a new payment system that uses ID-chip card number (Smart Card) or mobile phone number for convenient payment of any goods or services when making a transaction. It also enables a payment from Welfare State and tax redeem. This policy supports the digital economy as stated in the National e-Payment policy. The payment system is tied with a savings account with ID-chip card or mobile phone number that will make a convenient and rapid payment and transfer system. However, this payment system may have an impact on household debt increase and savings decrease. So, the Prompt Saving systemis proposed to be used along with the Prompt Pay system, and that will let consumers save more moneyanytime when a purchase is made, and the Prompt Saving system also helps consumers to have more discipline and prudence on expenditure.

Keywords         :  Prompt Pay, Digital Economy, Prompt Saving, National Saving Fund, National e-Payment


Publication        : วารสารนักบริหาร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปีที่ 37 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2560 Executive Journal  Vol.37 No.1 Jan-Jun 2017

Link to Publication:   https://www.tci-thaijo.org/index.php/executivejournal/issue/view/7444

Bibliography     :  สุรชัย ภัทรบรรเจิด และ มนทิรา อารีพรสมสุข. (2560). เมื่อพร้อมเพย์ก็ควรจะพร้อมออม. วารสารนักบริหาร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ,  37(1), 27-35. 


Quick View

เสวนาวิชาการเรื่อง นักกฎหมายไทย 4.0

 

ชื่อเรื่อง              :  เสวนาวิชาการเรื่อง นักกฎหมายไทย 4.0

เจ้าของผลงาน       :  ผศ.ดร.สมหมาย จันทร์เรือง 

หน่วยงาน               :  คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

การประชุมวิชาการ    : สมาคมนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  (ส.น.ธ.) จัดเสวนาวิชาการเรื่อง นักกฎหมายไทย 4.0 เมื่อวันที่ 22 กรกฏาคม 2560 ณ คณะนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

Link  to video clip : https://youtu.be/TBBCNiTNL4w

Bibliography  : สมหมาย จันทร์เรือง. (2560, 22 กรกฏาคม). เสวนาวิชาการเรื่อง นักกฎหมายไทย 4.0. [วีดิโอคลิป]. เข้าถึงได้จาก https://www.youtube.com/watch?v=TBBCNiTNL4w


สมาคมนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  (ส.น.ธ.):  http://www.law.tu.ac.th

ตั้งอยู่ที่คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สมาคมนิติศาสตร์มีวัตถุประสงค์ คือ ส่งเสริมความเจริญให้แก่คณะนิติศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สนับสนุนความร่วมมือและเผยแพร่วิทยาการในทางนิติศาสตร์ ระหว่างสมาชิกกับสมาคมหรือสถาบันทางกฎหมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในระหว่างมวลสมาชิก บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ และการกุศลสาธารณะ ส่งเสริมการบันเทิง การกีฬา และการพักผ่อนหย่อนใจของมวลสมาชิก อุดหนุนและให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสนับสนุนและร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เคยศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบรรดาสมาคมซึ่งผู้ที่เคยศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้จัดตั้งขึ้น ในการธำรงไว้ ส่งเสริมและเผยแพร่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยวัตถุประสงค์ทั้ง 8 ประการดังกล่าวนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

สมาคมนิติศาสตร์ได้จัดกิจกรรมในด้านต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ อย่างต่อเนื่อง ดังเช่น

  • กิจกรรมสัมมนาวิชาการในเรื่อง “ร่าง พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์: ฤา ชื่อธรรมศาสตร์จะเปลี่ยนไป”
  • โครงการอบรมและเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายให้กับองค์กรและหน่วยงานต่างๆ
  • โครงการอบรมในหัวข้อ “การเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบภาคปฏิบัติ การฝึกอบรมวิชาว่าความของสภาทนายความ” ให้กับนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • กิจกรรมศึกษาดูงานคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ของนักศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว
  • พิธีวางพวงมาลาอนุสรณ์พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์
  • งานเลี้ยงแสดงความยินดีให้กับบัณฑิตนิติศาสตร์
  • กิจกรรม “ชวนกันเดินทัวร์”
Quick View

แอปพลิเคชันสื่อการเรียนรู้และฝึกทักษะภาษาอังกฤษสําหรับเด็กอายุ 3-5 ปี ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง

 

Title              :  แอปพลิเคชันสื่อการเรียนรู้และฝึกทักษะภาษาอังกฤษสําหรับเด็กอายุ 3-5 ปี ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง : English Language Skill Enhancement for 3-5 Years Student using Augmented Reality

Researcher       :  วีนา โชติช่วง และ ชนาภา กระจง

Chotchuang V. and Krajong C.

Department     :  ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                :   veena.cho@siam.edu

บทคัดย่อ             :   การเรียนการสอนภาษาอังกฤษในปัจจุบัน จําเป็นที่ต้องมีการปรับสื่อการสอนให้สอดคล้องและทันยุคสมัย มีการนําเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาประยุกต์ใช็ในการผลิตสื่อการเรียนการสอน สําหรับเทคโนโลยีเสมือนจริง(Augmented Reality -AR)นั้น ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้ถูกนํามาช่วย ด้วยความเป็นเทคโนโลยีที่ผสานโลกแห่งความจริง (Real World)เข้ากับโลกเสมือน(Virtual World)และให้ผลลัพธ์เป็นภาพจําลองสามมิติได้อย่างชัดเจน มีรูปแบบการนําเสนอ ที่ตื่นเต้น กระตุ้นต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนส่งผลให้ผู้เรียนเกิดทักษะ การสังเกต และการจดจํา สําหรับเด็กในวัย 3-5 ปีได้อีกแนวทางหนึ่งแนวคิดในการพัฒนาแอปพลิเคชันสื่อการเรียนรู้และฝีกทักษะภาษาอังกฤษ สําหรับเด็กอายุ 3-5 ปีด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงนี้มีการพัฒนาบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ สามารถติดตั้งลง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตได้ ภายในแอปพลิเคชันจะแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนแรกจะเป็นบทเรียนภาษาอังกฤษ ที่มีภาพเสมือนจริงของผลไม้กับสัตว์ต่างๆตามพยัญชนะตัวอักษร A-Z เมื่อใช้กล้องจากสมาร์ทโฟนส่องกับมาร์กเกอร์จะแสดงโมเดลสามมิติพร้อมกับแอนิเมชั่นและเสียงประกอบ ส่วนที่สอง เป็นเกมเพื่อฝีกทักษะการจดจํา การสังเกต และการเรียนรู้ ได้แก่ เกมจับคู่ผลไม้กับข้อความภาษาอังกฤษเกมเติมคําในช่องว่างของศัพท์ที่หายไปเกมเลือกคําตอบภาษาอังกฤษที่ถูกต้องจากคําศัพท์ที่ให้มา ทั้งสามเกมนี้มีเนื้อหาเป็นแบบฝึกทักษะการเรียนรู้จากบทเรียนเสมือนจริงสําหรับเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนานั้น มีการนําโปรแกรม Maya และโปรแกรม Vuforia มาใช้ในการสร้างโมเดล และตัวมาร์กเกอร์สําหรับตัวเกมมีการพัฒนาโดยใช้โปรแกรม Unity เมื่อมีการนําแอปพลิเคชันไปใช้ร่วมกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษกับครูผู้สอนในระดับชั้นอนุบาล โรงเรียนวรรัตน์วิทยาพบว่าแอปพลิเคชันดังกล่าว ระบบสามารถช่วยให้ผู้สอน มีวิธีการสอนใหม่ขึ้นจากการเรียนในแบบเดิม ผลการประเมินความพึงพอใจ อยู่ในระดับดีมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.52

คําสําคัญ             :  เทคโนโลยีเสมือนจริง/แอนดรอยด์/แอปพลิเคชันมือถือ/ภาษาอังกฤษ

Abstract            :  Nowadays, English teaching requires an updated method. Augmented reality is one of the tools to be utilized. The combination of real-world and virtuality makes a 3-D representation engaging. Consequently, the learning process has been enhanced for 3 to 5 years old children. The developer use Android mobile operating system as a platform to develop the application that can be installed on phone and/or tablet computer. There are two parts; the lesson and game. We use alphabetically-ordered pictures and sound to stimulate the learning process. In the game part, there are some tips to enhance the memory skills. For example, matching between pictures and vocabulary. We use Maya and Vuforia to develop the model and markers. The game engine is Unity. After the trail period at Worarat Vittaya School, we have found that the application is complementing the learning process of these sample students.

Keywords        :    Augmented Reality / Android / Mobile Application / English


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 5  The 5th Academic Science and Technology Conference 2017 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0” (Science and Technology as a Key Driver towards Thailand 4.0) วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม 2560  ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ผู้จัดหลัก: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

Link to Proceeding:    https://www.astcconference.com/page/proceedings#astc-content

Bibliography     :    วีนา โชติช่วง และ ชนาภา กระจง. (2560). แอปพลิเคชันสื่อการเรียนรู้และฝึกทักษะภาษาอังกฤษสําหรับเด็กอายุ 3-5 ปี ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 5 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0” (หน้า 1374-1381). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสยาม.


Quick View