การวิเคราะห์กระบวนการเรียนรู้ของขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมแบบใหม่ ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติลุ่มน้ำโขง

[mfn]ภัทร ยืนยง และ ชนิตา รักษ์พลเมือง. (2558). การวิเคราะห์กระบวนการเรียนรู้ของขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมแบบใหม่ ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติลุ่มน้ำโขง. วารสารครุศาสตร์, 43(4), 45-62.[/mfn]   การวิเคราะห์กระบวนการเรียนรู้ของขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมแบบใหม่ ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติลุ่มน้ำโขง

ภัทร ยืนยง และ ชนิตา รักษ์พลเมือง


Professor Emeritus Dr.Chanita Rukspollmuang

Quick View

การวิเคราะห์กลยุทธ์การซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์สำหรับระบบการซื้อขายอัตโนมัติด้วย MQL4 (2559)

Title              :  การวิเคราะห์กลยุทธ์การซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์สำหรับระบบการซื้อขายอัตโนมัติด้วย MQL4 : Analysis of Electronic Trading Strategies for Automated Trading System with MQL4

Researcher       : โตมร สุนทรนภา

Department     :  ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม
E-mail                :  tomo.soo@siam.edu

บทคัดย่อ             :  บทความนี้เสนอการวิเคราะห์กลยุทธ์การซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์ด้วยระบบการซื้อขายอัตโนมัติซึ่งเขียนด้วยโปรแกรมภาษา MQL4 ทำการสร้างกฎการซื้อขาย จากดัชนีบ่งชี้ที่นิยมใช้ทั้งหลักการตัดกันและเงื่อนไขเปรียบเทียบกับค่าควบคุม เช่น MA MACD ADX CCI เป็นต้น กำหนดกลยุทธ์การซื้อขายในรูปแบบต่างๆ แล้วนำมาทดสอบกับข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยน เช่น EURUSD USDJPY GPBUSD และ USDCHF พร้อมทั้งหาค่าพารามิเตอร์ที่ดีที่สุดจากตัวโปรแกรม MT4 ผลการทดสอบย้อนกลับ และผลการตรวจสอบระบบแบบไปข้างหน้า เช่น แฟกเตอร์กำไร เปอร์เซ็นต์การลากผิดทาง เปอร์เซ็นต์ทำกำไร และเปอร์เซ็นต์ขาดทุน ได้นำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบและอภิปราย

คำสำคัญ             : : ระบบการซื้อขายอัตโนมัติ MQL4 กลยุทธ์การซื้อขาย

Abstract            :  This paper presents an analysis of electronic trading strategies with automated trading system. The program is written in MQL4 to create trading rules using popular indicators such as MA, MACD, ADX and CCI. The trading system using crossover of two indicators and comparing control values can give a signal. We defined trading strategies in different ways and then test with foreign exchange historical data such as EURUSD, USDJPY, GPBUSD and USDCHF. The best parameters are optimized by MT4 program. The backtest results and validation with forward test as profit factor, drawdown percent, profit trades and loss trades percent are analyzed and discussed.

Keywords         : Electronic trading system, MQL4, Trading strategy

Download PDF: การวิเคราะห์กลยุทธ์การซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์สำหรับระบบการซื้อขายอัตโนมัติด้วย MQL4


Link to Proceeding:   การประชุมวิชาการทางวิศวกรรมไฟฟ้า ครั้งที่ 39 (EECON 39th) วันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2559 , โรงแรมเดอะ รีเจนท์ชะอำบีช รีสอร์ท จังหวัดเพชรบุรี.   


Bibliography    :  โตมร สุนทรนภา. (2559). การวิเคราะห์กลยุทธ์การซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์สำหรับระบบการซื้อขายอัตโนมัติด้วย MQL4. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการทางวิศวกรรมไฟฟ้า ครั้งที่ 39 (EECON 39th) วันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2559, โรงแรมเดอะ รีเจนท์ชะอำบีช รีสอร์ท จังหวัดเพชรบุรีกรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.


Quick View

การวิเคราะห์ป ัจจัยในการเรียนวิชาเคมีอาหาร และการใช้บัตรคําและวิดีทัศน์ต่อ ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักศึกษา (2557)

 

Title              :  การวิเคราะห์ป ัจจัยในการเรียนวิชาเคมีอาหาร และการใช้บัตรคําและวิดีทัศน์ ต่อ ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักศึกษา : Factor Analysis of Food Chemistry Learning and Effective Achievement of Students with Word Cards and Video Approach

Researcher       :  ณัฎฐิกา ศิลาลาย และ ธัญญาภรณ์ ศิริเลิศ*
Nattiga Silalai and Tunyaporn Sirilert*

Department     : ภาควิชาเทคโนโลยีการอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                :  *ผู้ประสานงานหลัก: tunyapornfood@gmail.com

บทคัดย่อ             :  การวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อสกัดปัจจัยที่มีผลต่อการเรียนรายวิชาเคมีอาหาร 2 และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาเคมีอาหาร 2 ทั้งก่อนและหลังการสอนโดยการใช้สื่อการสอนแบบบัตรคําและวิดิทัศน์ช่วยในการเรียนและการจดจํา จากกลุ่มตัวอย่างนักศึกษาชั้นปlที่ 3 ภาควิชาเทคโนโลยีการอาหาร มหาวิทยาลัยสยาม โดยใช้เครื่องมือสํารวจทัศนคติต่อรายวิชาด้วยแบบสอบถาม และวิเคราะห์ค่าความถี่และใช้เทคนิคการวิเคราะห์ปัจจัย (Factor analysis) พบว่าสามารถวิเคราะห์และสกัดปัจจัยโดย principal component analysis (PCA) ได้ทั้งหมด 4 ปัจจัย คือ ปัจจัยด้านการแก้ปัญหา ปัจจัยด้านอุปกรณ์การสอน ปัจจัยปัญหาการเรียนการสอน และปัจจัยด้านความรูู้พื้นฐาน โดยพบปัจจัยในการแก้ปัญหาเป็นปัจจัยที่ให้ความสําคัญที่สุด ประกอบไปด้วยปัจจัยย่อยคือ ความรู้ด้านกลไกทางเคมีในอาหาร, ศัพท์เทคนิคเฉพาะสาขา และการใช้เทคนิคสื่อการสอน (Eigen value>1) และจากปัจจัยที่สกัดได้ จึงนํามาพัฒนาการสอนโดยการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา โดยใช้เครื่องมือบัตรคํา และสื่อวิดิทัศน์ เพื่อการจดจําศัพท์เฉพาะสาขาในขั้นตอนก่อนและหลังการสอน พบว่าผลคะแนนหลังการสอนด้วยการใช้บัตรคํา และสื่อวิดิทัศน์จะให้ระดับคะแนนสูงกว่าก่อนการใช้สื่อการสอนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (t=-14.07, p<0.05) และเมื่อพิจารณาทัศนคติของความคาดหวังจากแบบสอบถาม พบว่าร้อยละของคะแนน ด้านความคาดหวังของนักศึกษาที่มีการพัฒนาการเรียนรู้และสามารถจดจําศัพท์เฉพาะสาขามีค่ามากถึงร้อยละ 80 โดยนักศึกษากลุ่มนี้สามารถสอบผ่านการเรียนในรายวิชาเคมีอาหารโดยสัมพันธ์กับคะแนนสอบปลายภาคอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p<0.05)

คําสําคัญ             :  การวิเคราะห์ปัจจัย ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ บัตรคํา วิดีทัศน์ และเคมีอาหาร

Abstract            :  The objective of the present study was to investigate the factors influencing on ‘Food Chemistry 2’ learning skills and to compare the effective achievement of third-year students (Food Technology Department, Siam University) in ‘Food Chemistry 2’ learning skills obtained from usage of particular techniques (Before and After). The techniques used for ‘Food Chemistry 2’ learning skills consisted of word cards and relative videos in order to improve the memory skills. Basically, the questionnaires were used to survey the attitudes of students to this subject and analyzed to determine factors resulting in learning skills. The results could be characterized and divided into 4 factors using the principal component analysis (PCA) such as problem solution factor, teaching equipment factor, learning problem factor and basic knowledge factor. The most important factor of learning skills was the problem solution factor, which comprised perception and understandings, technical term vocabularies and cognitive learning skills (Eigen value > 1). All factors were used to develop teaching equipment, e.g., word cards and relative videos. Target groups (third-year students, Food Technology Department, Siam University) were tested before (pre-test) and after (post-test) using the teaching equipment. After using the teaching equipment, the post-test scores of the students were significantly higher than the pre-test scores (t = -14.07, p<0.05). Attitude of the students expecting to develop and remember the technical term vocabularies was higher to 80%. These students could significantly pass the ‘Food Chemistry 2’ subject in relation to scores of final exam (p<0.05). 

Keywords        :    factor analysis, attributes, word cards, video, food chemistry

Donwload PDF  :  การวิเคราะห์ป ัจจัยในการเรียนวิชาเคมีอาหาร และการใช้บัตรคําและวิดีทัศน์ต่อ ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักศึกษา


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 2  ASTC 2014: The 2nd Academic Science and Technology Conference 2014 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี: การศึกษาคือนวัตกรรมนําพาประเทศชาติสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” (Innovative Education Challenges the Nation Towards AEC) วันศุกร์ที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๗  ณ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ผู้จัดหลัก: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

Link to Proceeding:    https://www.astcconference.com/page/proceedings#astc-content


Bibliography     :    ณัฎฐิกา ศิลาลาย และ ธัญญาภรณ์ ศิริเลิศ. (2557). การวิเคราะห์ป ัจจัยในการเรียนวิชาเคมีอาหาร และการใช้บัตรคําและวิดีทัศน์ต่อ ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักศึกษา . ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่  2 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี: การศึกษาคือนวัตกรรมนําพาประเทศชาติสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” (หน้า 102-107). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยรังสิต.


 

Quick View

การวิเคราะห์วงจรซอฟต์สวิทชิ่งบูสท์ดีซีทูดีซีคอนเวอร์เตอร์ที่ใช้สวิทช์ตัวเดียว (2556)

 

Title             :  การวิเคราะห์วงจรซอฟต์สวิทชิ่งบูสท์ดีซีทูดีซีคอนเวอร์เตอร์ที่ใช้สวิทช์ตัวเดียว 

Researcher       : ยงยุทธ นาราษฎร์

Department     : Department of Electrical Engineering, Faculty of Engineering, Siam University
E-mail                : yongyuth.nar@siam.edu

 


Bibliography    :  ยงยุทธ นาราษฎร์ (2556). การวิเคราะห์วงจรซอฟต์สวิทชิ่งบูสท์ดีซีทูดีซีคอนเวอร์เตอร์ที่ใช้สวิทช์ตัวเดียว. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการทางวิศวกรรมไฟฟ้า ครั้งที่ 33 (หน้า 375-378). กาญจนบุรี: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.


Quick View

การวิเคราะห์องค์ประกอบรูปแบบการดำเนินชีวิตของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร (2558)

 

ชื่อบทความ     :  การวิเคราะห์องค์ประกอบรูปแบบการดำเนินชีวิตของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร : Component analysis on teenager lifestyle in Bangkok

เจ้าของผลงาน       :  จิรวุฒิ หลอมประโคน, วราภรณ์ ลิ้มเปรมวัฒนา และ อกนิษฐ กลสุนทร

หน่วยงาน               :  ภาควิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                   :  varaporn.lim@siam.edu

บทคัดย่อ                :  วิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการดำเนินชีวิตของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานครโดยใช้การวิจัยเชิงปริมาณด้วยเก็บแบบสอบถามจำนวน 400 ชุด สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือค่าเฉลี่ย ร้อยละ การหาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้การวิเคราะห์ปัจจัย (Factor Analysis) ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า องค์ประกอบรูปแบบการดำเนินชีวิตของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานครประกอบไปด้วย 9 องค์ประกอบดังนี้ 1. สนใจด้านศิลปะและวัฒนธรรมชุมชน การเมือง พระพุทธศาสนาและงานอดิเรก 2. สนใจติดตามข่าวสารบันเทิงความสวยความงามและตามกระแสนิยม 3. สนใจกิจกรรมนอกบ้าน เช่น Shopping ทานข้าว เป็นต้น 4. สนใจงานเลี้ยงสังสรรค์และงานรื่นเริง 5. สนใจกิจกรรมที่ตื่นเต้นและท้าทาย 6. สนใจดูหนังและเล่นอินเทอร์เน็ต 7. ให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับแรก 8. สนใจข่าวกีฬาทั้งในและต่างประเทศ 9. สนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อม

คำสำคัญ                :  การวิเคราะห์องค์ประกอบ รูปแบบการดำเนินชีวิตวัยรุ่น

Abstract              :  The research objective was to study about the lifestyle of teenagers in Bangkok area. The quantitative research methodology with the use of 400 questionnaire sets was employed in this study. The descriptive research was mean, percentage, standard deviation, and factor analysis. The research showed that components of teenage lifestyle in Bangkok were consisted of 9 main points: 1. Interest in art, community culture, politics, religion, and hobbies, 2.Interest in entertainment, beauty, and popular current news, 3. Activities outside the house such as shopping and eating out, 4. Interest in parties and festivals, 5. Exciting and challenging activities, 6. Interest in watching movies and internet access, 7. The first priority in family, 8. Interest in both local and foreign sports news, as well as 9. Support to environment care.

Keywords           : component analysis, lifestyle of teenagers


 

Publication        : วารสารวิจัยรำไพพรรณี ปีที่ 9 ฉบับที่ 3  มิถุนายน – กันยายน 2558  Rajabhat Rambhai Barni Research Journal Vol.9 No.3  Jun-Sep 2015

Link to Publication:   https://www.rbru.ac.th/org/research/temp.php?p=journalP1&y=2558

Bibliography    : จิรวุฒิ หลอมประโคน, วราภรณ์ ลิ้มเปรมวัฒนา และ อกนิษฐ กลสุนทร. (2558). การวิเคราะห์องค์ประกอบรูปแบบการดำเนินชีวิตของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารวิจัยรำไพพรรณี, 9(3), 34-44.


Quick View

การวิเคราะห์และเทคนิคการออกแบบวงจรอัดประจุ

 

Title              :  การวิเคราะห์และเทคนิคการออกแบบวงจรอัดประจุ : Analysis and Design Techniques of Charge Pump Circuits

Researcher       :   ปิติกันต์ รักราชการ
Department     :  ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม 38 ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ 10160 เบอร์โทรศัพท์ 02-4570068 ต่อ 140

E-mail                :  pitikan@siam.edu

บทคัดย่อ             :  ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์และการสื่อสารในปัจจุบัน ทำให้เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันนี้มีขนาดเล็กลงและต้องประหยัดพลังงานมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลให้ต้องมีการพัฒนาแหล่งจ่ายพลังงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น วงจรอัดประจุเป็นวงจรหนึ่งที่ถูกนำมาใช้งานอย่างกว้างขวาง เนื่องจากวงจรดังกล่าวสามารถเพิ่มแรงดันให้สูงขึ้นโดยใช้แหล่งจ่ายแรงดันระดับต่ำได้ ทั้งยังมีการสูญเสียต่ำ บทความนี้ได้กล่าวถึง หลักการทำงานเบื้องต้นของวงจรอัดประจุ คุณสมบัติและพฤติกรรมของวงจร พารามิเตอร์และแบบจำลอง เทคนิคและกลยุทธ์ในการออกแบบวงจร และการหาค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสม วงจรแบบดิกสัน รวมถึงแนะนำเทคนิคในการออกแบบวงจรอัดประจุที่มีใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

คําสําคัญ             :    การประหยัดพลังงาน แหล่งจ่ายพลังงาน วงจรอัดประจุ

Abstract            :  The technological advances in electronics and communication today. The consumer electronics today required smaller and more energy saving. These are the reason for the need of development of power supply to even higher levels of efficiency. Charge pump is a circuit that is used widely. Since such circuits can be increased by using high voltage as low voltage source and lossless. This article has discussed on basic operation of the pump charge circuit, the properties and behavior of the circuit, parameters and models, techniques and strategies in the design cycle and searching the appropriate parameters. Diskson Circuits and tricks of the design is applied in the present.

Keywords        :   Energy savings, Power supply, Charge Pump

Download PDF:   การวิเคราะห์และเทคนิคการออกแบบวงจรอัดประจุ


Publication        : วารสารวิชาการ ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ปีที่ 5 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2559  APHEIT JOURNAL SCIENCE TECHNOLOGY Vol.5 No.1  Jan-Jun 2016

Link to Publication:    http://apheit.bu.ac.th/index.php/read-science?id=156


Bibliography     :   ปิติกันต์ รักราชการ. (2559). การวิเคราะห์และเทคนิคการออกแบบวงจรอัดประจุ. วารสารวิชาการ ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย, 5(1), 112-125.


 

Quick View

การศึกษาความคาดหวังและการรับรู้คุณภาพการบริการทางการแพทย์ (2558)

 

Title              : การศึกษาความคาดหวังและการรับรู้คุณภาพการบริการทางการแพทย์ : The Study of the Expectations and Perceptions of Medical Service Quality

Researcher       : ภัทรภร จิรมหาโภคา¹ และ พัทรียา หลักเพ็ชร
Pattaraporn Jiramahapoka & Patthareeya Lakpeth

Department      :  ¹Faculty of Liberal Arts, Siam University, Bangkok, Thailand

E-mail                 :  ¹ติดต่อได้ที่: bonjour.fai.ja@gmail.com

บทคัดย่อ              :  การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคาดหวังและการรับรู้คุณภาพการบริการทางการแพทย์ของผู้ใช้บริการทางการแพทย์ที่เป็นชาวต่างชาติ โดยใช้ทฤษฎี resource-based view (RBV) กับการใช้ทรัพยากรขององค์กรทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านความมีคุณค่า (valuable) ด้านความหายาก (rare) ด้านความยากที่จะเลียนแบบ (inimitable) และด้านการไม่สามารถทดแทนได้ (non-substiutable) และตรวจสอบความสัมพันธ์ความแตกต่างระหว่างความคาดหวังก่อนรับบริการกับการรับรู้หลังรับบริการของผู้ใข้บริการทางการแพทย์ วิธีการศึกษาแบ่งออกป็น 2 ด้าน ได้แก่ ด้านอุปสงค์และด้านอุปทาน สำหรับด้านอุปสงค์เป็นการศึกษาเชิงปริมาณ เพื่อศึกษาความคาดหวังและการรับรู้ของนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ชาวต่างชาติจำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ แบบสอบถาม สำหรับด้านอุปทานเป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ เพื่อศึกษาศักยภาพของการบริการทางการแพทย์ ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานประกอบการทางการแพทย์ จำนวน 3 คน และนำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาทั้ง 2 ด้านมาสรุปเพื่อเป็นการศึกษาความคาดหวังและการรับรู้คุณภาพการบริการทางการแพทย์ ผลการศึกษาพบว่า นักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์มีระดับความคาดหวังก่อนรับบริการมากกว่าระดับการรับรู้หลังรับบริการในทุกด้านหลัก ได้แก่ 1) ด้านความมีคุณค่า (valuable) 2) ด้านความหายาก (rare) 3) ด้านความยากที่จะเลียนแบบได้ (inimitable) และ 4) ด้านการไม่สามารถทดแทนได้อย่างสมบูรณ์ (non-substitutable) และในรายด้านความหายาก ข้อย่อยที่มีระดับการรับรู้มากกว่าระดับความคาดหวัง มีเพียงด้านเดียว คือ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานพยาบาลมีความพร้อมใช้งาน และด้านที่มีอันดับค่าเฉลี่ยความคาดหวังมากที่สุดเรียงอันดับ ได้แก่ 1) ด้านการไม่สามารถทดแทนได้อย่างสมบูรณ์ 2) ด้านความหายาก 3) ด้านความมีคุณค่า และ 4) ด้านความยากที่จะเลียนแบบได้ ตามลำดับ

คำสำคัญ              :  คุณภาพการบริการทางการแพทย์; ความคาดหวังและการรับรู้

Abstract            :  This research aimed to study the expectations and perceptions of medical service quality of foreign users. This research was based on the theoretical frameworks of resource-based view (RBV) and creating competitive advantages through four factors as follows: 1) valuable 2) rare 3) inimitable and 4) non-substitutable. The study also examined the relationship between the expectations of services provided and the final perception of actual services. This research aimed to study the demand and supply perspectives. Investigation of the demand side was conducted by using a quantitative approache to study the expectations and the perceptions of 400 foreigners who travelled to Thailand for medical purposes. The research instruments were questionnaires and semi-structured interviews. In terms of the supply side, qualitative approaches were implemented to study the potentials of medical establishments through in-depth interviews with three experts associated with medical institutions. Content analysis and secondary data were synthesized to derive the expectations and perceptions of medical service quality. It was found that the expectations of the medical tourists were higher than the perceptions after receiving services in all four aspects: 1) valuable 2) rare 3) inimitable and 4) non-substitutable. Of the four aspects, only one point in the rare aspect was exceptional in that the tourists’ perceptions were greater than their expectations; this was in conveninences available in medical facilities. The highest average expectations were ranked from greatest to least as follows: 1) non-substitutable 2) rare 3) valuable and 4) inimitable.

Keywords         :  medical service quality; expectation and perception

Download PDF  :  การศึกษาความคาดหวังและการรับรู้คุณภาพการบริการทางการแพทย์ 


Publication        : วารสารมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ ปีที่ 22 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2558) Humanities Journal Vol.22 No.2 (July-December 2015)

Link to Publication:   https://www.tci-thaijo.org/index.php/abc/issue/view/5065


Bibliography     :  ภัทรภร จิรมหาโภคา และ พัทรียา หลักเพ็ชร. (2558). การศึกษาความคาดหวังและการรับรู้คุณภาพการบริการทางการแพทย์. วารสารมนุษยศาสตร์,  22(2), 185-208. 


Quick View

การศึกษาความมีวินัยในตนเองของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยสยาม (2548)

 

Title              :  การศึกษาความมีวินัยในตนเองของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยสยาม: THE STUDYING SELF-DISCIPLINED ASPECTS IN UNDERGRADUATE STUDENTS OF SIAM UNIVERSITY

Researcher       : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรทิพา ส่องศิริ  อาจารย์วัฒนีย์ ปานจินดา  อาจารย์ณัฏฐา อนุตรลัญจ์
Department     :  Faculty of Nursing, Siam University, Bangkok, Thailand

E-mail                :  jsiamns@siam.edu

บทคัดย่อ             :  การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยายมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความมีวินัยในตนเองของนักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยสยาม โดยรวมและเป็นรายด้าน 7 ด้าน ได้แก่ ความรับผิดชอบ ความเชื่อมั่นในตนเอง ความเป็นผู้นํา ความอดทน ความซื่อสัตย์ ความเสียสละและการรักษาระเบียบใจ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาที่กําลังศึกษาในระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยสยาม จํานวน 531 คน ทําการสุ่มกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified random sampling) เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถามความมีวินัยในตนเองของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ 0.89 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ t-test, F-test และทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่โดยวิธีการของเชฟเฟ่ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1) นักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยสยาม มีความมีวินัยในตนเองโดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า นักศึกษามีความมีวินัยในตนเองด้านความเป็นผู้นํา ความรับผิดชอบ ความอดทน ความซื่อสัตย์ ความเสียสละ และการรักษาระเบียบใจอยู่ในระดับมาก ยกเว้นด้านความเชื่อมั่นในตนเองอยู่ในระดับปานกลาง
2) ค่าเฉลี่ยของความมีวินัยในตนเองโดยรวมของนักศึกษาหญิงสูงกว่านักศึกษาชาย อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3) นักศึกษาแต่ละคณะ ระดับชั้น ความเข้มงวดในการมีระเบียบวินัยของคณาจารย์ ลักษณะการอบรมเลี้ยงดูต่างกัน มีความมีวินัยในตนเองโดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05

คำสำคัญ             :  ความมีวินัยในตนเอง นักศึกษา

Abstract            :  The study was descriptive research. The purpose of this study was to determine self-disciplined aspects in undergraduate students of Siam University The self-disciplined aspects composed of responsibility, self-confidence, leadership, patience, honesty, sacrifice and reserving one’s attitude. The subjects were 531 undergraduate students of Siam University that were required from stratified random sampling. The instrument was the self-disciplined aspects questionnaire of undergraduate students that had interrater reliability of 0.89. Data was analyzed by t-test, F-test, and Major finding were as follows:
1) The undergraduate students of Siam University have had the high level of self- disciplined aspects. Considering each an aspect has found that they had the high level in leadership, responsibility, patience, honesty, sacrifice and reserving one’s attitude but they had the moderate level of self-confidence.
2) The mean score of self- disciplined aspects of the female group were significantly higher than the male group at the .05 level.
3) The self- disciplined aspects were significantly different at the .05 level in the difference of grade, the strict-disciplined of instructors on student and admonishment of parents.

Keywords         :  self- disciplined aspects, undergraduate students


Research          :    รายงานการวิจัย เรื่อง การศึกษาความมีวินัยในตนเองของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยสยาม                            

Link to Research:    http://www.research-system.siam.edu/2013-12-20-03-57-52/251-2013-12-20-05-58-109

Bibliography   :  อรทิพา ส่องศิริ, วัฒนีย์ ปานจินดา และ ณัฏฐา อนุตรลัญจ์. (2548). การศึกษาความมีวินัยในตนเองของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยสยาม (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสยาม. 


Quick View

การศึกษาความร้อนเกินค่าปกติที่เกิดจากของผสมระหว่างนิกเกิลและลิเธียมอลูมินัมไฮดรายด์

 

Title              :  การศึกษาความร้อนเกินค่าปกติที่เกิดจากของผสมระหว่างนิกเกิลและลิเธียมอลูมินัมไฮดรายด์ : Study of Abnormal Exess Heat from Nickel and Lithium Aluminum Hydride Mixture

Researcher       :  บรรเทิง ศิลป์สกุลสุข¹ คณิต ทองพิสิฐสมบัติ² และ นัฐพล ปานพรหมมินทร์³
Banterng Silpsakoolsook,¹ Kanit Thongpisisombat² and Nattapon Panprommin³

Department     :  ¹′²ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม และ ³ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                :  banterngs@yahoo.com

บทคัดย่อ             :   บทความนี้เป็นการศึกษาพลังงานความร้อนที่ปลดปล่อยจากรีแอคเตอร์ที่ทำด้วยท่อสเตนเลสภายในบรรจุของผสมของผงนิกเกิล 0.9 กรัม และลิเธียมอลูมินัมไฮดรายด์ 0.1 กรัม โดยหลังจากได้รับความร้อนจนอุณหภูมิสูงกว่า 1000 องศาเซลเซียส ระบบจะปลดปล่อยพลังงานความร้อนเกินค่าปกติ โดยขณะที่อุณหภูมิเท่ากับ 1234 ถึง 1268 องศาเซลเซียส ระบบปลดปล่อยความร้อนส่วนเกิน คิดเป็นค่าพลังงาน 14.16 วัตต์ ค่าสัมประสิทธิ์การทำงาน(COP) เท่ากับ 1.06 ซึ่งผลการศึกษานี้สนับสนุนความเป็นไปได้ของปฏิกิริยานิวเคลียร์ชนิดอุณหภูมิต่ำ (LENR)

คําสําคัญ             :  นิกเกิล ลิเธียมอลูมินัมไฮดรายด์ ปฏิกิริยานิวเคลียร์ชนิดอุณหภูมิต่ำ

Abstract            :  This paper studies the heat energy which released from stainless metal reactor tube that loaded with a mixture of 0.9 gram of nickel powder and 0.1 gram of lithium aluminum hydride. After heated over 1000 °C the reactor tube generates abnormal excess heat. As the temperature of 1234 to 1268 °C the system released excess heat power as 14.16 watts with coefficient of performance (COP) as 1.06. This result supports the possibilities of low energy nuclear reaction (LENR).

Keywords        :    nickel, lithium aluminum hydride, cold fusion, LENR


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 5  The 5th Academic Science and Technology Conference 2017 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0” (Science and Technology as a Key Driver towards Thailand 4.0) วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม 2560  ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ผู้จัดหลัก: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

Link to Proceeding:    https://www.astcconference.com/page/proceedings#astc-content

Bibliography     :    บรรเทิง ศิลป์สกุลสุข, คณิต ทองพิสิฐสมบัติ และ นัฐพล ปานพรหมมินทร์. (2560). การศึกษาความร้อนเกินค่าปกติที่เกิดจากของผสมระหว่างนิกเกิลและลิเธียมอลูมินัมไฮดรายด์. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 5 “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0” (หน้า 562-568). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสยาม.


Quick View
วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์-ปี่ที่5-ฉบับที่3-กย-ธค-2559

การศึกษาความรู้ทัศนคติและพฤติกรรมของคนในชุมชนพื้นที่เสี่ยงที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ไม่พร้อมของวัยรุ่น

[mfn]จุฑารัตน์ เนียมหลาง และ ชนิตา รักษ์พลเมือง. (2559). การศึกษาความรู้ทัศนคติและพฤติกรรมของคนในชุมชนพื้นที่เสี่ยงที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ไม่พร้อมของวัยรุ่น. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 5(3), 175-187.[/mfn]   การศึกษาความรู้ทัศนคติและพฤติกรรมของคนในชุมชนพื้นที่เสี่ยงที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ไม่พร้อมของวัยรุ่น

จุฑารัตน์ เนียมหลาง และ ชนิตา รักษ์พลเมือง


Professor Emeritus Dr.Chanita Rukspollmuang

Quick View