ปัจจัยทางการตลาด ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม

 

Title              :  ปัจจัยทางการตลาด ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม : Marketing Factors Influencing Contact Lens Purchasing Decision in Facebook.com

Researcher       :  นางสาวณัฐชญา ชัยผดุง¹ และ ดร. พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก² 

Department     :  ¹นักศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสยาม 10160 ²อาจารย์ที่ปรึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสยาม 10160

E-mail                :  ผู้ประสานงานหลัก:

บทคัดย่อ             :  วัตถุประสงค์ในการศึกษาครั้งนี้ (1) เพื่อศึกษาปัจจัยทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม (2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดกับการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม (3) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม กลุ่มตัวอย่างคือ ลูกค้าที่ซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม โดยไม่จำกัดอายุ จำนวน 400 คน โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Random Sampling) สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ สถิติเชิงพรรณนา ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson Product-Moment Correlation Coefficient) การสร้างสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณด้วยวิธี Stepwise ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมีอายุ 18 – 25 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 – 30,000 บาท มูลค่าเฉลี่ยในการซื้อคอนแทคเลนส์แต่ละครั้ง 201 – 300 บาท ส่วนใหญ่ใช้คอนแทคเลนส์ประเภทรายเดือน ยี่ห้อ Bausch & Lomb บุคคลที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อคอนแทคเลนส์คือ ตนเอง แหล่งข้อมูลของคอนแทคเลนส์มาจากสื่อโฆษณาทางอินเตอร์เน็ต มีการเปรียบเทียบคอนแทคเลนส์ในแต่ละยี่ห้อก่อนตัดสินใจซื้อ โดยวัตถุประสงค์ในการใส่คอนแทคเลนส์เพื่อแก้ปัญหาความผิดปกติของสายตา ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์เป็นอันดับหนึ่ง อยู่ในระดับมาก โดยให้ความสำคัญกับคอนแทคเลนส์มีการแสดงข้อมูลส่วนประกอบต่าง ๆ และวิธีการใช้ชัดเจน มากที่สุด รองลงมา เป็นปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด ปัจจัยด้านการบอกต่อ และปัจจัยด้านช่องทางในการจัดจำหน่าย ตามลำดับ ปัจจัยทางการตลาดที่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม พบว่าปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านช่องทางในการจัดจำหน่าย ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด และปัจจัยด้านการบอกต่อ มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ในการวิเคราะห์ปัจจัยทางการตลาดที่มีอิทธิผลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม โดยนำตัวแปรอิสระเข้าสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ ทั้ง 5 ตัวแปร พบว่า ตัวแปรอิสระ 4 ตัวแปร เข้าสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ ได้แก่ 1. ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ 2. ปัจจัยด้านราคา 3. ปัจจัยด้านช่องทางในการจัดจำหน่าย และ 4. ปัจจัยด้านการบอกต่อ แต่ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาดไม่มีอิทธิผลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม

คําสําคัญ             :  ปัจจัยทางการตลาด คอนแทคเลนส์ การตัดสินใจเลือกซื้อคอนแทคเลนส์ เฟสบุ๊คดอทคอม

Abstract            :  This reseach aims (1) to study the Marketing factors influencing to purchasing decision of Contact Lens in Facebook.com. (2) to study the relationship model of marketing factors to make purchasing decision of Contact Lens in Facebook.com. (3) to analyze the factors affecting to purchasing decisions of Contact Lens in Facebook.com. The sample consisted of customer who purchased contact lens in Facebook.com and no aged limit. Sampling were done of 400 people with a purposive random sampling method by descriptive statistics, the average percentage and standard deviation. The correlation was used to Pearson Product-Moment Correlation Coefficient and a multiple linear regression with stepwise. The results of study showed that most of samples were female, 18-25year old, graduated in Bachelor’s degree, were private company employees, average monthly income ranging from 20,001 – 30,000 Baht. The average cost of buying contact lens each time was around 201 – 300 Baht. Most people used to monthly contact lens which made by Bausch & Lomb. Most of them were influenced by online advertising and choice the contact lens by themselves. They were also compare each brand before making a purchase. For the purpose of wearing contact lens was to solve the sight problem. Questionaire answerer attaches great importance to product factor. Especially the contact lens that showed component details and instruction clearly. Second, the price factor, marketing promotion factor, buzz factor and distribution factor respectively. Marketing factor relating to buying a contact lens in Facebook. Product factor, price factor, distribution factor marketing, promotion factor and buzz factor had a positive relationship with the decision to buy contact lens in Facebook significantly on the statistics at 0.01 on analyzing market factor which influencing decision to buy contact lens in Facebook. By applying independent variables to multiple linear regression equation with all 5 factors. As a result, product factor, price factor, distribution factor and buzz factor apply into multiple linear regression equation but the marketing promotion factor had no effect on the decision to buy contact lens in Facebook.

Keywords        :    Marketing Factors, Contact Lens, Contact Lens Purchasing Decision, Facebook.com

Donwload PDF  :  ปัจจัยทางการตลาด ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” ศูนย์บริการวิจัย และ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมกับ เครือข่ายวิจัยประชาชื่น วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2561 ณ ห้องประชุมหอประวัติและพิพิธภัณฑ์ ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ อาคาร 6 ชั้น 7 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

Link to Proceeding:    http://www.dpu.ac.th/conference/


Bibliography     :    ณัฐชญา ชัยผดุง และ พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก. (2561). ปัจจัยทางการตลาด ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอนแทคเลนส์ในเฟสบุ๊คดอทคอม. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” (หน้า 266-276). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.


 

Quick View

ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการบริโภคของพระสงฆ์และพฤติกรรมการถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ของประชาชนในเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร (2561)

Researcher       : ศนิกานต์ ศรีมณี Sanikan Seemanee, Lecturer, ชนิดา มัททวางกูร Chanida Mattavagkul, Lecturer, พรพิมล ภูมิฤทธิกุล Pornpimon Poomrittikul, Lecturer, ระชี ดิษฐจร Rachee Ditajorn, Lecturer, พรรณี ตรังคสันต์ Pannee Trangkasant, Lecturer
Department     :  Faculty of Nursing,  Siam University, Bangkok, Thailand

E-mail                :  Corresponding author: s.seemanee@gmail.com


Bibliography    :  ศนิกานต์ ศรีมณี, ชนิดา มัททวางกูร, พรพิมล ภูมิฤทธิกุล, ระชี ดิษฐจร และ พรรณี ตรังคสันต์. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการบริโภคของพระสงฆ์และพฤติกรรมการถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ของประชาชนในเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม, 19(37), 22-38.

[dflip id="7355"][/dflip]

วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ปีที่ 19 ฉบับที่ 37 ก.ค.-ธ.ค. 2561 Journal of Nursing, Siam University Vol. 19 No. 37 Jul-Dec 2018

Quick View

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของผู้บริโภครุ่นเจนวาย ในประเทศไทย

 

Title              :  ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของผู้บริโภครุ่นเจนวาย ในประเทศไทย : Factors Influencing Buying Decision Process for Dietary Supplements of Gen Y Consumers in Thailand

Researcher       :  นางสาวกันต์กนก ชัยผดุง¹ และ ดร. พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก² 

Department     :  ¹นักศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสยาม 10160 ²อาจารย์ที่ปรึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสยาม 10160

E-mail                :  ผู้ประสานงานหลัก:

บทคัดย่อ             :  การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดกับการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย 3) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงสำรวจ เก็บข้อมูลโดยการใช้แบบสอบถามผ่านทางอินเทอร์เน็ต กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้บริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรุ่นเจนวายในประเทศไทยที่สามารถเล่น Social Media ได้ จำนวน 400 คน ด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (purposive sampling) สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ สถิติเชิงพรรณนา ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson product moment correlation coefficient) และการสร้างสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ ด้วยวิธี Stepwise

ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อยู่ในช่วงอายุ 26 – 30 สถานภาพโสด ประกอบอาชีพรับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ระดับการศึกษาปริญญาตรี ระดับรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 30,000
บาทขึ้นไป วัตถุประสงค์ในการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อันดับแรก คือ เพื่อบำรุงสุขภาพ และทราบแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากอินเทอร์เน็ต ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านการโฆษณา และ ปัจจัยด้านการตลาดทางตรง การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดกับการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของ
ผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทยใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์ พบว่า ปัจจัยทางการตลาดทุกตัวมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย ทำโดยสร้างสมการถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ ด้วยวิธี Stepwise สามารถอธิบายได้ว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทย ได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านการโฆษณา และ ปัจจัยด้านการตลาดทางตรง โดยปัจจัยด้านการโฆษณามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทยมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ปัจจัยด้านราคาและปัจจัยด้านการตลาดทางตรงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผู้บริโภครุ่นเจนวายในประเทศไทยน้อยที่สุด

คําสําคัญ             :  การตัดสินใจซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผู้บริโภครุ่นเจนวาย

Abstract            :  This research aims 1) to study the factors affecting to buying decisions process of dietary supplements of Gen Y consumers in Thailand. 2) to study the relationship model of marketing factors to make buying decisions of dietary supplements of Gen Y consumers in Thailand. 3)to analyze the factors affecting to buying decisions process of dietary supplements of Gen Y consumers in Thailand. This paper was a survey research in which a questionnaire was used to as an instrument to collect data via internet. Sample consisted of people consuming dietary supplements who can used internet. Sampling were done of 400 people with a purposive sampling method by descriptive statistics, the average percentage and standard deviation. The correlation was used to pearson product moment correlation coefficient and a multiple linear regression with stepwise.
The results of the study showed that most of samples were female, 26-30 year old, single, occupation civil servant state enterprise employee, employed professionals with a bachelor’s degree, monthly income 30,000 baht or more, first objective of purchasing was maintain health, and received data from internet. Factors affecting to buying decisions process of dietary supplements were product price advertising and direct marketing. The result of correlation found that the marketing factors had positive correlation with the Gen Y consumers in Thailand who bought of dietary supplements at the statistically significant level of 0.01. Analyzing the factors influencing to buying decisions process of dietary supplements of Gen Y consumers in Thailand by multiple linear regression with stepwise found that marketing factors were influencing to buying decisions of dietary supplements with 4 variables were product price advertising and direct marketing. Advertising factor was most influencing. Following by product factor, price factor and direct marketing factor was slightest influencing.

Keywords        :    Buying decisions, Dietary supplements, Gen Y consumers

Donwload PDF  :  ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของผู้บริโภครุ่นเจนวาย ในประเทศไทย


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” ศูนย์บริการวิจัย และ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมกับ เครือข่ายวิจัยประชาชื่น วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2561 ณ ห้องประชุมหอประวัติและพิพิธภัณฑ์ ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ อาคาร 6 ชั้น 7 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

Link to Proceeding:    http://www.dpu.ac.th/conference/


Bibliography     :    กันต์กนก ชัยผดุง และ พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก. (2561). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของผู้บริโภครุ่นเจนวาย ในประเทศไทย. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” (หน้า 277-286). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.


 

Quick View
วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

ผลของการใช้สื่อสุขภาพรูปแบบแอปพลิเคชันไลน์ ต่อความรู้และความเข้าใจโรคเบาหวานของบุคลากรในสถานศึกษา (2561)

 

Title              : ผลของการใช้สื่อสุขภาพรูปแบบแอปพลิเคชันไลน์ ต่อความรู้และความเข้าใจโรคเบาหวานของบุคลากรในสถานศึกษา : Effect of Using LINE Applications Health Media to Diabetic Knowledge and Understanding of Schools’ staff
Researcher       สุจิตราภรณ์ ทับครอง, เพ็ญรุ่ง นวลแจ่ม, นิตยา วิโรจนะ, พาจนา ดวงจันทร์ 

Department     :  Faculty of Nursing,  Siam University, Bangkok, Thailand

E-mail                : sujitraporn2001@yahoo.com


Bibliography    :  สุจิตราภรณ์ ทับครอง, เพ็ญรุ่ง นวลแจ่ม, นิตยา วิโรจนะ และ พาจนา ดวงจันทร์. (2561). ผลของการใช้สื่อสุขภาพรูปแบบแอปพลิเคชันไลน์ ต่อความรู้และความเข้าใจโรคเบาหวานของบุคลากรในสถานศึกษา.  วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม, 19(36), 78-87.

Quick View

ผลของระยะเวลาในการย่อยต่อสมบัติทางเคมี-กายภาพและสมบัติเชิงหน้าที่ของโปรตีนไฮโดรไลเซตจากปลาดาบเงิน (2561)

 

Title              :  ผลของระยะเวลาในการย่อยต่อสมบัติทางเคมี-กายภาพและสมบัติเชิงหน้าที่ของโปรตีนไฮโดรไลเซตจากปลาดาบเงิน : Effect of Hydrolyzing Time on Physicochemical and Functional Properties of Protein Hydrolysate from Largehead hairtail (Trichiurus lepturus)

Researcher       : จิรนาถ บุญคง และ การันต์ พุกชัยวาณิชย์

Department     : ภาควิชาเทคโนโลยีการอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                : jiranart.boo@siam.edu

ฐานข้อมูลงานวิจัย มหาวิทยาลัยสยาม: https://e-research.siam.edu/kb/effect-of-hydrolyzing-time/


Link to Article:  วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร ปีที่ 49 ฉบับที่ 2 (ฉบับพิเศษ การประชุมวิชาการและเสนอผลงานวิจัยพืชเขตร้อนและกึ่งร้อน ครั้งที่ 11) มกราคม-เมษายน 2561 หน้า 473-476.

Link to Publication:    วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร / TCI กลุ่มที่ 2


Bibliography     :    จิรนาถ บุญคง และ การันต์ พุกชัยวาณิชย์. (2561). ผลของระยะเวลาในการย่อยต่อสมบัติทางเคมี-กายภาพและสมบัติเชิงหน้าที่ของโปรตีนไฮโดรไลเซตจากปลาดาบเงิน. วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร, 49(2, ฉบับพิเศษ), 473-476.


 

Quick View

ผลของสภาวะกรดและด่างต่อสมบัติทางเคมี-กายภาพ และสมบัติเชิงหน้าที่ของโปรตีนรำข้าว

 

Title              :  ผลของสภาวะกรดและด่างต่อสมบัติทางเคมี-กายภาพ และสมบัติเชิงหน้าที่ของโปรตีนรำข้าว: Effect of acid and base on physico-chemical and functional properties of rice bran protein

Researcher       :  พัชรพร พิพัฒนสัตยาวงศ์, จิรนาถ บุญคง, ภิญโญ แซ่เฮ้ง และ นัชชา หงษ์สา
Patcharaphorn Pipattanasattayawong, Jiranart Boonkong, Pinyo Saeheang and Natcha Hongsa

Department     :  หลักสูตรเทคโนโลยีการอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                :  jiranart.boo@siam.edu

บทคัดย่อ             :   ศึกษาผลของพีเอชต่อสมบัติทางเคมี-กายภาพ และสมบัติเชิงหน้าที่ของโปรตีนจากรำข้าวสายพันธุ์ดอกมะลิ 105 โดยทำการสกัดโปรตีนจากรำข้าวหอมมะลิที่สกัดไขมันออก จากนั้นนำไปวิเคราะห์สมบัติทางเคมี-กายภาพ ได้แก่ ปริมาณโปรตีน ปริมาณความชื้น ค่าปริมาณน้ำอิสระ ความสัมพันธ์ของค่าสี(CIE) ค่าพีเอช เทียบกับโปรตีนมาตรฐานสองชนิดคือ โปรตีนอัลบูมินไข่ขาว และโปรตีนถั่วเหลือง พบว่าโปรตีนรำข้าวหอมมะลิ มีปริมาณโปรตีนน้อยกว่าโปรตีนมาตรฐานทั้งสองชนิด ค่าปริมาณน้ำอิสระไม่แตกต่างจากอัลบูมินไข่ขาว มีค่าความสว่างต่ำสุดแต่มีค่าสีแดงมากที่สุด จากนั้นศึกษาผลของพีเอชต่อสมบัติเชิงหน้าที่ของโปรตีน พบว่าโปรตีนทุกชนิดที่ค่า pH 9 มีสมบัติเชิงหน้าที่ ได้แก่ ปริมาณโปรตีนที่ละลายน้ำได้ ความสามารถในการจับน้ำ ความสามารถในการเกิดโฟมและความคงตัวของโฟม รวมถึงความสามารถในการเกิดอิมัลชันและความคงตัวของอิมัลชันสูงสุด และโปรตีนอัลบูมินไข่ขาวมีสมบัติเชิงหน้าที่ทุกด้านสูงที่สุด โปรตีนรำข้าวหอมมะลิมีสมบัติเชิงหน้าที่ใกล้เคียงกับโปรตีนอัลบูมินไข่ขาวในด้านความสามารถในการเกิดโฟม และความคงตัวของโฟม ในขณะที่มีสมบัติเชิงหน้าที่ในด้านความสามารถในการเกิดอิมัลชันและความคงตัวของอิมัลชันใกล้เคียงกับโปรตีนถั่วเหลือง จากการตรวจสอบประเภทของ อิมัลชันของโปรตีน 3 ชนิด พบว่า เป็นอิมัลชันประเภทน้ำมันในน้ำ (O/W)

คําสําคัญ             :  โปรตีนรำข้าวหอมมะลิ, สมบัติเชิงหน้าที่, อัลบูมินไข่ขาว, โปรตีนถั่วเหลือง

Abstract            :  Effect of pH on physico-chemical and functional properties of protein from Hommali 105 cultivars rice bran was studied. The extraction of protein from defatted rice bran and then analyzed the physico-chemical characteristics of Hommali rice bran proteins (RBPH) such as moisture content, water activity, color (CIE) and pH value compared with two standard proteins, which were bovine serum albumin (BSA) and soy protein (SOY). The result revealed that RBPH had lower protein content than two standard proteins. The water activity was similar to BSA, brightness was lowest, but the redness was highest. Then studied on effect of pH to functional properties, compared with two standard proteins. The results found that all of proteins show the best functional properties in term of protein solubility, water binding, foam capacity, stability, emulsifying activity index and emulsion stability index at pH 9. BSA exposed the best functional properties, but it got low water binding. The RBPH showed the similar functional properties to BSA in term of foaming capacity and stability, but it showed the similar emulsifying activity index and emulsion stability to SOY. All of the proteins in this experiment were oil in water emulsion (O/W) type.

Key words        :   Hommali rice bran protein, functional properties, bovine serum albumin, soy protein


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 6  The 6th Academic Science and Technology Conference 2018 วันพุธที่ 6 มิถุนายน 2561  ณ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

Link to Proceeding:    https://www.astcconference.com/page/proceedings#astc-content

Bibliography     :  พัชรพร พิพัฒนสัตยาวงศ์, จิรนาถ บุญคง, ภิญโญ แซ่เฮ้ง และ นัชชา หงษ์สา. (2561). ผลของสภาวะกรดและด่างต่อสมบัติทางเคมี-กายภาพ และสมบัติเชิงหน้าที่ของโปรตีนรำข้าว. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 6 (หน้า AS 234-AS 240). สมุทรปราการ: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.


Quick View

ผลโปรแกรมออกกำลังกายสร้างสุข 5 มิติต่อสมรรถภาพทางกาย ความสุข และคุณภาพชีวิต ในสมาชิกชมรมผู้สูงอายุวัดราชวรินทร์ (2561)

 

Title              :  ผลโปรแกรมออกกำลังกายสร้างสุข 5 มิติต่อสมรรถภาพทางกาย ความสุข และคุณภาพชีวิต ในสมาชิกชมรมผู้สูงอายุวัดราชวรินทร์ : Effects of Five Dimension Happiness Program on Functional Fitness, Happiness, and Quality of life in Wat Ratchawarin Elderly Club

Researcher       :  สุสารี ประคินกิจ, สุรัชนา เกษตรเสริมวิริยะ และ รสยา ยุวพรพาณิชย์

                                  Susaree Prakhinkit, Suratchana Kasaesemviriya and Rosaya Yuwapornpanit
Department     :   คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                :   tik.susaree@gmail.com

บทคัดย่อ             :   การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบทดลอง ชนิดศึกษาสองกลุ่มวัดก่อนและหลัง (Two groups pre-post test design) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมออกกำลังกายสร้างสุข 5 มิติต่อสมรรถภาพทางกาย ความสุข และคุณภาพชีวิตในสมาชิกชมรมผู้สูงอายุวัดราชวรินทร์ จำนวน 50 คน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มควบคุม จำนวน 25 คน กลุ่มออกกำลังกายโดยโปรแกรมสร้างสุข 5 มิติ จำนวน 25 คน กำหนดที่ระดับความหนักของการออกกำลังกายเท่ากับเล็กน้อย (20-39% Heart Rate Reserve) ถึงปานกลาง (40-50% Heart Rate Reserve) ความถี่การออกกำลังกาย 3 ครั้ง/สัปดาห์ เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ ประเมินสมรรถภาพทางกาย ความสุข และคุณภาพชีวิต โดยใช้แบบวัดขององค์การอนามัยโลก (The World Health Organization Quality of Life) ก่อนและหลังใช้โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลก่อนและหลังโดยใช้สถิติการทดสอบค่าทีแบบรายคู่ (Paired t- test) วิเคราะห์ระหว่างกลุ่มโดยการทดสอบค่าทีแบบกลุ่มตัวอย่างเป็นอิสระต่อกัน (Independent t-test) ผลการศึกษาพบว่า สมรรถภาพทางกาย ความสุข คุณภาพชีวิต เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในกลุ่มตัวอย่างที่มีการออกกำลังกายด้วยโปรแกรมสร้างสุข 5 มิติ แต่ไม่พบการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มควบคุม เมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มพบว่าสมรรถภาพทางกาย ความสุข คุณภาพชีวิตโดยรวมเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สรุปได้ว่า การออกกำลังกายโดยโปรแกรมสร้างสุข 5 มิติสามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางกาย ความสุขและคุณภาพชีวิตได้

คําสําคัญ             :   สุข 5 มิติ สมรรถภาพทางกาย คุณภาพชีวิต

Abstract            :  This study was experimental research with two groups pre-post test design carried out to determine the effects of the five happiness exercise program on physical fitness, happiness and quality of life in Senior Citizen club of Wat Ratchawarin. A total of 50 participants were randomly allocated to the sedentary control (n=25), and exercise groups (n=25). Exercise training programs were designed to yield the mild (20-39% Heart Rate Reserve) to moderate (40-50% Heart Rate Reserve) intensity, 3 times/ week for 8 weeks. The World Health Organization Quality of Life questionnaires were assessed physical fitness, happiness, quality of life pre-post programs. Data pre-post (in group) analyzed by using paired t- test and data between group analyzed by using independent t-test. The results showed that physical fitness, happiness and the quality of life was greater in the exercise group (p<0.05) . However, there were no significant difference in physical fitness, happiness and the quality of life in control group. Exercise group was a significantly physical fitness, happiness and the quality of life more than control group when compared between groups (p<0.05). We concluded the five happiness exercise program was effective in increasing physical fitness,
happiness and quality of life in Wat Ratchawarin elderly club.

Keywords        :   The five happiness, Physical fitness, Quality of life


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 6  The 6th Academic Science and Technology Conference 2018 วันพุธที่ 6 มิถุนายน 2561  ณ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

Link to Proceeding:    https://www.astcconference.com/page/proceedings#astc-content

Bibliography     :  สุสารี ประคินกิจ, สุรัชนา เกษตรเสริมวิริยะ และ รสยา ยุวพรพาณิชย์. (2561). ผลโปรแกรมออกกำลังกายสร้างสุข 5 มิติต่อสมรรถภาพทางกาย ความสุข และคุณภาพชีวิต ในสมาชิกชมรมผู้สูงอายุวัดราชวรินทร์. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 6 (หน้า HS 2-HS 7). สมุทรปราการ: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.


Quick View
วารสารวิชาการบริหารธุรกิจ สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย-ปีที่6-ฉบับที่1-มค-มิย-2560

พฤติกรรมการซื้อและการวิเคราะห์องค์ประกอบปัจจัยที่มีผลต่อ การซื้อสินค้าหรือบริการผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภค ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

 

Title              : พฤติกรรมการซื้อและการวิเคราะห์องค์ประกอบปัจจัยที่มีผลต่อ การซื้อสินค้าหรือบริการผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภค ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา: Purchasing Behaviors and Analysis of Marketing Factor Affecting Consumer’s E-Business transactions in Nakhonratchasima Municipality, Nakhonratchasima Province

Researcher       :  บุษยา วงษ์ชวลิตกุล สงวน วงษ์ชวลิตกุล ธนกร ลิ้มศรัณย์ อรอุมา ปราชญ์ปรีชา ทศพล ปราชญ์ปรีชา จอมภัค จันทะคัต
Department      :  Master of Business Administration, Siam University, Bangkok, Thailand

E-mail                 : dr.tanakorn@siam.edu

Abstract            :  วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้เป็นการศึกษาพฤติกรรมการซื้อ และองค์ประกอบของปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อสินค้าผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์ปัจจัยโดยการสร้างตัวแปรใหม่ของกลุ่มตัวแปร ด้วยการวิเคราะห์องค์ประกอบของปัจจัย (Factor Analysis) และสถิติถดถอยพหูคุณ ประชากรในการศึกษานี้ ได้แก่ ผู้ซื้อหรือผู้ที่เคยซื้อสินค้าผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง โดยใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในเขตเทศบาลนครนคราชสีมา จำนวน 400 คน  ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 63.8 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทุกวัน โดยร้อยละ 31.0 ใช้เวลาจำนวน 2 ชั่วโมงขึ้นไป ใช้อินเตอร์เน็ตในสถานที่ทำงาน และสั่งซื้อสินค้าหรือบริการในช่วง 9.01-12.00น. ผู้บริโภคมีความถี่ในการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านทางอินเตอร์เน็ตเดือนละครั้ง  มีค่าเฉลี่ยในการซื้อแต่ละครั้งในช่วง 501- 1,000 บาท ทั้งนี้มากกว่าร้อยละ 75 ของกลุ่มตัวอย่างใช้การค้นหาร้านค้าผ่าน Search Engine เช่น Google เพื่อเข้าสู่หน้าเว็ปไซต์ของร้านค้าโดยตรงเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการ โดยกลุ่มสินค้าและบริการที่นิยมมากที่สุดคือสินค้าแฟชั่นและการจองโรงแรม และชำระเงินด้วยวิธีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ขาย สาเหตุที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตเนื่องจากสามารถค้นหาสินค้าหรือบริการได้ง่ายและรวดเร็ว ทั้งนี้ปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อสินค้าผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ประกอบไปด้วย กลุ่มที่ให้ความสำคัญกับปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด กลุ่มที่ให้ความสำคัญต่อปัจจัยด้านการรักษาความเป็นส่วนตัว และ และกลุ่มที่ให้ความสำคัญต่อปัจจัยด้านการให้บริการส่วนบุคคล

Key words         :  พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, พฤติกรรมการซื้อสินค้า, ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด, จังหวัดนครราชสีมา


Publication        : วารสารวิชาการบริหารธุรกิจ สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยฯ ปีที่ 6 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2560

                                  Journal of Business Administration The Association of Private Higher Education Institutions of Thailand  Vol.6 No.1 Jan-Jun 2017

Link to Publication:    https://www.tci-thaijo.org/index.php/apheitvu/issue/view/8189

Download PDF  : พฤติกรรมการซื้อและการวิเคราะห์องค์ประกอบปัจจัยที่มีผลต่อ การซื้อสินค้าหรือบริการผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภค ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

Bibliography     : บุษยา วงษ์ชวลิตกุล, สงวน วงษ์ชวลิตกุล, ธนกร ลิ้มศรัณย์, อรอุมา ปราชญ์ปรีชา, ทศพล ปราชญ์ปรีชา และ จอมภัค จันทะคัต. (2560). พฤติกรรมการซื้อและการวิเคราะห์องค์ประกอบปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา.  วารสารวิชาการบริหารธุรกิจ สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยฯ,  6(1), 95-113. 


Quick View

พฤติกรรมการใช้บริการแอพพลิเคชั่น Trip Advisor ของนักท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร (2561)

 

Title              : พฤติกรรมการใช้บริการแอพพลิเคชั่น Trip Advisor ของนักท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร : Customer’s Behavior of Trip Advisor Application of Tourism in Bangkok

Researcher       :  ดร.เปรมจิต พรหมสาระเมธี และ ดร.วรรณรัตน์ วัฒนานิมิตกูล

Department     : อาจารย์ประจำภาควิชาธุรกิจระหว่างประเทศ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม 10160

E-mail                :  ผู้ประสานงานหลัก:

บทคัดย่อ             :  วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อศึกษาลักษณะประชากรศาสตร์ พฤติกรรมการใช้บริการ และความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น Trip Advisor ในกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น Trip Advisor ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน ทำการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับผลการทดสอบสมมติฐานใช้สถิติทดสอบความสัมพันธ์แบบไคสแควร์ (Chi-square) ผลการวิจัย พบว่า ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 20 – 30 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี มีสถานภาพโสด มีอาชีพทำงานบริษัทเอกชน และมีระดับรายได้ต่อเดือน 30,000 บาทขึ้นไป พฤติกรรมของผู้ใช้บริการ ได้แก่การจองห้องพัก การจองร้านอาหาร และการจองสนามกอล์ฟ ส่วนความถี่ในการไปใช้บริการ พบว่า ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ใช้บริการ 3 – 5 ครั้งต่อ 1 ปี รองลงมาใช้บริการ 1 – 2 ครั้งต่อ 1 ปี และมากกว่า 6 ครั้งต่อ 1 ปี ตามลำดับ นอกจากนี้ผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจในการใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น Trip Advisor ในกรุงเทพมหานคร โดยรวมอยู่ในระดับมาก ความพึงพอใจมากที่สุด คือ ด้านคุณภาพการให้บริการ รองลงมาคือด้านกระบวนการการให้บริการ และมีความพึงพอในน้อยที่สุด คือ ด้านราคา ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ประชากรศาสตร์ ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ต่อเดือน และพฤติกรรมในการใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น Trip Advisor ในกรุงเทพมหานคร มีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในการใช้บริการ ด้านคุณภาพการให้บริการ ด้านราคาค่าบริการ และด้านกระบวนการให้บริการ

คําสําคัญ             : พฤติกรรม, แอพพลิเคชั่น Trip Advisor, นักท่องเที่ยว

Abstract            :  This research aims to study the demographic, Tourists’ behavior, and Tourists’ satisfaction of trip advisor application of tourism in Bangkok. The samples used for this study are 400 samples from people who servicing at trip advisor application. This research was purposive sampling. Questionnaires were used to collect data. The data was analyzed as
frequency, percentage, mean, and standard deviation. For hypothesis testing was used chi-square. The results of the study showed that most Tourists were female, aged between 20 –
30 years old, hold bachelor’s degree, single, worked in private companies, and earned more than 30,000 baht. Tourists’ behavior was booking restaurant, reservation and booking a golf.
The frequency of service was 3 – 5 time per year, 1 – 2 time per year and 6 time per year. In addition, Tourists’ satisfaction at trip advisor application overall was high level. The most
satisfaction was quality. Secondly, it was process. The lowest satisfaction was price. The hypothesis testing revealed that demographic: gender, age, level of education, occupation and Tourists’ behavior of used trip advisor application of tourism in Bangkok related to satisfaction: service quality, process and price

Keywords        :   Behavior, trip advisor application, Tourists

Donwload PDF  :  พฤติกรรมการใช้บริการแอพพลิเคชั่น Trip Advisor ของนักท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” ศูนย์บริการวิจัย และ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมกับ เครือข่ายวิจัยประชาชื่น วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2561 ณ ห้องประชุมหอประวัติและพิพิธภัณฑ์ ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ อาคาร 6 ชั้น 7 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

Link to Proceeding:    http://www.dpu.ac.th/conference/


Bibliography     :   เปรมจิต พรหมสาระเมธี และ วรรณรัตน์ วัฒนานิมิตกูล. (2561). พฤติกรรมการใช้บริการแอพพลิเคชั่น Trip Advisor ของนักท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “Changing Era: What’s happening in Arts & Design in 21St Century? เปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์สู่ศตวรรษที่ 21” (หน้า 343-352). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.


 

Quick View

ระบบค้นหาร้านอาหารด้วยการวิเคราะห์ส่วนบุคคล

 

Title              :  ระบบค้นหาร้านอาหารด้วยการวิเคราะห์ส่วนบุคคล : Restaurant Search System with Personalized Analysis

Researcher       :  จรรยา แหยมเจริญ, บุญฤทธิ์ รั่วสำราญ และ วรยศ คำลือ

Department     :  ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

E-mail                :  boonyarit.rou@gmail.com

บทคัดย่อ             :   การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่จะนำมาวิเคราะห์เพื่อแนะนำร้านอาหารให้เหมาะกับบุคคลแต่ละบุคคล (Personalized Recommender) โดยวิเคราะห์จากประเภทความชอบอาหารและวัตถุดิบอาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ในแต่ละบุคคลที่เหมือนกัน โดยศึกษาจากข้อมูลทดสอบ (Training Data Set) ที่รวมมาได้จากแบบสอบถามพฤติกรรมในการเลือกรับประทานอาหาร ที่ค่าความเหมือน 1.98-2.00 และพัฒนาระบบค้นหาร้านอาหารด้วยการวิเคราะห์ส่วนบุคคล ที่แบ่งการทำงานออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 เป็นเว็บแอพพลิเคชัน สำหรับผู้ดูแลระบบในการจัดการข้อมูลข้อมูลหลักที่ใช้ใน ส่วนที่ 2 เป็นแอนดรอยด์โมบายแอพพลิเคชัน สำหรับผู้ใช้ที่เป็นร้านอาหาร และส่วนที่ 3 เป็นแอนดรอยด์โมบายแอพพลิเคชัน สำหรับผู้ใช้ที่เป็นผู้บริโภค สามารถกำหนดข้อมูลส่วนตัว เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ และค้นหาร้านอาหารที่เหมาะสมได้ ในการพัฒนาระบบแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. Backend System พัฒนาโดยใช้ภาษาจาวาสร้างฟังก์ชันรองรับการทำงานของฝั่งโมบายแอพพลิเคชัน และจัดการฐานข้อมูลด้วย MySql และ 2. Frontend System เป็นโมบายแอพพลิเคชันที่ทำงานบนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ พัฒนาด้วย Android SDK ผ่านโปรแกรม Android Studio

คําสําคัญ             :  ร้านอาหาร, การวิเคราะห์ส่วนบุคคล, การหาค่าความเหมือน

Abstract            :  The objective of this research is to study the variables which will be analyzed to introduce the restaurant to the individual. The personalized recommendation is based on the type of the food preferences and the food ingredients that cause allergic reactions in the same person by the study from training data set is included from questionnaire at the similarity value is 1.98-2.00. And to develop the restaurant search system with personalized analysis. The system consists of three parts: Part one is a web application for administrator to manage the master data, Part two is an Android mobile application for restaurant users, and Part three is an Android mobile application for consumer users to define their personal data for analysis to find the right restaurant. The development of the system is divided into two parts: 1. Backend System developed by using Java to create functions for mobile applications and use MySql to be database management system and 2. Frontend System is a mobile application on the Android platform developed with Android SDK.

Keywords        :    restaurant, personalized analysis, similarity value


Proceeding       : รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 6  The 6th Academic Science and Technology Conference 2018 วันพุธที่ 6 มิถุนายน 2561  ณ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

Link to Proceeding:    https://www.astcconference.com/page/proceedings#astc-content

Bibliography     :  จรรยา แหยมเจริญ, บุญฤทธิ์ รั่วสำราญ และ วรยศ คำลือ. (2561). ระบบค้นหาร้านอาหารด้วยการวิเคราะห์ส่วนบุคคล. ใน รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 6 (หน้า IT 487-IT 495). สมุทรปราการ: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.


Quick View