Which first aid treatment is appropriate for a bizarre skin lesion and cardiovascular collapse after swimming in the sea?(2018)
Title : Which first aid treatment is appropriate for a bizarre skin lesion and cardiovascular collapse after swimming in the sea?
Researcher : Thaikruea, L., Leelarasamee, A.
Abstract : A 52-year-old Thai female was stung by a jellyfish on her knee incurred while swimming in the sea on Kood island in the Gulf of Thailand. She initially felt like electric shot at her left knee with severe burning pain. Her left leg rapidly developed erythema and showed brownish-red colored marks as showed in the Figure 1. A few minutes later while rushing back to the resort, she had difficulty in breathing and could walk a few steps further before collapse. Her vital signs at emergency room were as following: BP 152/72 mm.Hg, pulse 114 beats/minute, respiratory rate 22 beats/minute, body temperature 36.8° Celsius.
Link to Academic article: http://www.jmatonline.com/index.php/jmat/article/view/9258
Journal : Journal of the Medical Association of Thailand, 2018, 101(8)
Bibliography : Thaikruea, L., & Leelarasamee, A. (2018). Which first aid treatment is appropriate for a bizarre skin lesion and cardiovascular collapse after swimming in the sea?. Journal of the Medical Association of Thailand, 101(8), pp. 1143–1144.
กระแสวัฒนธรรม ปีที่ 19 ฉบับที่ 35 ม.ค.-มิ.ย. 2561
บทบรรณาธิการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชลลดา มงคลวนิช
หน้าสารบัญ
บทความวิจัย
- วัฒนธรรมการมีบุตรในพื้นที่ชายแดนใต้ อัลญาณ์
สมุห์เสนีโต
- เพลงไทยสากลสำหรับเด็กช่วงปี พ.ศ. 2482 – 2500
จิตร์ กาวี
- โขนเฉลิมกรุง : แนวคิด รูปแบบ และปัจจัยที่ส่งผลต่อการแสดง
กรินทร์ กรินทสุทธิ์
- กระบวนทัศน์นวัตกรรมเกมดิจิทัลคอนเทนท์ กระแสวัฒนธรรมสตรีนิยมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
เพ็ญประภา เกื้อชาติ และสุรศักดิ์ จิรวัสตร์มงคล
- การมีส่วนร่วมในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดปทุมธานีและจังหวัดนครนายก
พัชรินทร์ จึงประวัติ
บทความวิชาการ
กระแสวัฒนธรรม ปีที่ 19 ฉบับที่ 36 ก.ค.-ธ.ค. 2561
ISSN: 1513-4458
[dflip id="7305"][/dflip]สารบัญ
บทความวิจัย
การพัฒนาศักยภาพอัตลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เมืองโบราณชากังราว
สุประภา สมนักพงษ์
การวิเคราะห์และการจำแนกปริศนาคำทายไทยในปัจจุบัน: กรณีศึกษา นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล
ภัทรธรณ์ แสนพินิจ
การอนุรักษ์และพัฒนาศิลปะการแสดงหุ่นละครเล็กในประเทศไทย
ปณต สุสุวรรณ และคณะ
องค์ประกอบของปัจจัยการตลาดและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวตลาดน้ำคลองลัดมะยม
วราภรณ์ ลิ้มเปรมวัฒนา และดาริกา กูลแก้ว
Key Success Enhancing Competencies for Human Resource among Tour Operators for Incentive Travel
Kanokkarn Kaewnuch
บทความวิชาการ
ความรู้เรื่องการเทียบพุทธศักราชกับศักราชอื่นๆ ที่มัคคุเทศก์ควรทราบ
ละเอียด ศิลาน้อย และจรินทร์ ฟักประไพ
ปฏิบัติการทางวาทกรรมในวัฒนธรรมสมัยนิยมผ่านเพลงลูกทุ่งไทย
ปิยลักษณ์ โพธิวรรณ์
ความท้าทายชุมชนเชิงมรดกทางวัฒนธรรมต่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
อังค์ริสา แสงจำนงค์
กระแสวัฒนธรรม ปีที่ 20 ฉบับที่ 37 ม.ค.-มิ.ย. 2562
ISSN: 1513-4458
[dflip id="7513"][/dflip]สารบัญ
บทความวิจัย
Rewadee Ungpho
3-12
การพัฒนารูปแบบการแสดงหมอลำหมู่เชิงธุรกิจ Development of Mor-Lam Business Model
25-36
A Causal Relation Model of Market Orientation and Extended Market Orientation Factors Affecting Strategic through Performance for Thai Health Establishments in Bangkok
50-61
Contemporary Sculptures: Decoding the Body of Aesthetic Knowledge Suitable for Public Parks
62-71
The Importance and Challenges of Implementing Multicultural Music Education in a Music Classroom at International Schools in Bangkok, Thailand
72-86
บทความวิชาการ
Phrakru Sunthonkhemapinan, Phrakru Sujitkittiwat, Phrapalad Wetchayan Thitasuttho
87-101
An Increased Business Opportunity of Wellness Tourism as Premium Tourist Destination in Asian Countries
102-109
การทดสอบสมมติฐาน การบริโภคสินค้าคงทนในอดีต ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการบริโภคสินค้าคงทนในปัจจุบัน (2561)
[mfn]สมชาย เบ็ญจวรรณ์ และ ปรัชญา ปิ่นมณี. (2561). การทดสอบสมมติฐาน การบริโภคสินค้าคงทนในอดีต ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการบริโภคสินค้าคงทนในปัจจุบัน. สยามวิชาการ, 19(1), 1-18.[/mfn] การทดสอบสมมติฐาน การบริโภคสินค้าคงทนในอดีต ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการบริโภคสินค้าคงทนในปัจจุบัน
สมชาย เบ็ญจวรรณ์ และ ปรัชญา ปิ่นมณี
บทคัดย่อ : บทความนี้สนใจทดสอบสมมติฐาน การบริโภคสินค้าคงทนในอดีต ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการบริโภคสินค้าคงทนในปัจจุบัน ระเบียบวิธีการศึกษาจะเริ่มต้นจากทดสอบความนิ่ง (Stationary) ของข้อมูลอนุกรมเวลา จากนั้นสร้าง แบบจําลอง Autoregressive Model (AR(p)) โดยใช้ Akaike Information Criterion (AIC) กําหนดค่า p ที่เหมาะสมที่สุด สุดท้ายจึงทดสอบโดยใช้ F-test with n restriction ผล
การศึกษาเชิงเศรษฐมิติสามารถสรุปได้ว่า สมมติฐานนี้เป็นจริงสําหรับการบริโภคสินค้าคงทนหมวดรองเท้า หมวดเครื่องใช้และการบํารุงรักษาครัวเรือน และหมวดอุปกรณ์การประมวลผลข้อมูลภาพและเสียง อย่างไร
ตาม สมมติฐานข้างต้นไม่เป็นจริงสําหรับการบริโภคสินค้าคงทนหมวดเสื้อผ้า หมวดเครื่องเรือน และหมวดยานพาหนะ
คําสําคัญ : การทดสอบสมมติฐาน, สินค้าคงทน
Abstract : This paper tests the hypothesis “high past durable goods spending leads low present durable goods spending”. We use econometric methods such as the unit root test, selecting
autoregressive model (AR (p)) with Akaike information criterion (AIC), and F-test with n restriction. The hypothesis is accepted for (a) footwear, (b) household equipment and maintenance of the house, and (c) audio-visual, photographic and information processing equipment. The hypothesis is rejected for (d) clothing, (e) furniture, and (f) purchase of vehicles.
Keywords : Hypothesis Testing, Durable Goods
การประยุกต์ใช้ตัวชี้วัดการใช้ยาในงานวิจัยการใช้ยา (2561)
การประยุกต์ใช้ตัวชี้วัดการใช้ยาในงานวิจัยการใช้ยา (2561)
ผู้เขียนบทความ: ภญ. ดารารัตน์ สำเร็จวิทย์
บทคัดย่อ:
งานวิจัยเกี่ยวกับการใช้ยา มีกระบวนการวิจัยเกี่ยวข้องกับการศึกษาทางเภสัชระบาดวิทยาในการประเมินการใช้ยาหรือการสั่งจ่ายยาในกลุ่มประชากร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้ยาอย่างสมเหตุผล โดยเป็นองค์ประกอบของระบบยา งานวิจัยการใช้ยาเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง กระบวนการ และผลลัพธ์ของการใช้ยา โดยรูปแบบของงานวิจัยแบ่งออกเป็น งานวิจัยรูปแบบตัดขวาง การเก็บข้อมูลระยะยาว หรือรูปแบบเก็บข้อมูลต่อเนื่องระยะยาว ทั้งนี้ การเก็บข้อมูลในงานวิจัยการใช้ยามีหลายประเภท ขึ้นกับปัญหาการใช้ยาที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ เครื่องมือการเก็บข้อมูลการวิจัยมีหลายชนิด ผู้วิจัยควรเลือกวิธีการเก็บข้อมูล และใช้วิธีการแปรผลข้อมูลที่เหมาะสม ทั้งนี้ ในการประเมินติดตามผลการใช้ยา นิยมรายงานผลการเก็บข้อมูลในรูปแบบตัวชี้วัดการใช้ยา โดยชุดตัวชี้วัดแบ่งออกเป็น ตัวชี้วัดหลักและชุดตัวชี้วัดเสริม โดยตัวชี้วัดหลักอธิบายสถานการณ์การใช้ยาในด้าน พฤติกรรมการใช้ยา, การดูแลรักษาผู้ป่วย และด้านสถานพยาบาล โดยองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ใช้หลักการ ATC/DDD ในการศึกษาข้อมูลการใช้ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างสถาบัน ภูมิภาค หรือในระดับประเทศได้
คำสำคัญ: การวิจัยการใช้ยา drug utilization studies ตัวชี้วัดการใช้ยา
Link to Academic article: การประยุกต์ใช้ตัวชี้วัดการใช้ยาในงานวิจัยการใช้ยา
การปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องจักรในกระบวนการฉีดพลาสติก กรณีศึกษาบรรจุภัณฑ์กล้วยไม้
บทคัดย่อ
ในกรณีศึกษาการปรับปรุงกระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์กล้วยไม้ในกระบวนการฉีดพลาสติกเพื่อยกระดับประสิทธิผลสูงสุด จากการสำรวจสภาพปัจจุบันพบว่ากระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์กล้วยไม้มีค่าประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร 28.6 เปอร์เซ็นท์ต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนด 76.6 เปอร์เซ็นท์ จากการวิเคราะสาเหตุปัญหาด้วยการวิเคราะห์ Why – Why พบว่าสามาจากการหยุดเพื่อซ่อมบำรุงและการปรับตั้งเครื่องจักรเพื่อการลดปริมาณของเสียในกระบวนการฉีกพลาสติก จากการศึกษาพบว่าสาเหตุงรากเหง้าของปัญหามาจากความเสียหายชิ้นส่วนโอริงในแหล่งจ่ายน้ำมันไฮดรอลิคที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ผลจากการปรับปรุงพบว่าสามารถเพิ่มค่าประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรจาก 28.6 เปอร์เซ็นท์เป็น 82.4% รวมทั้งสามารถลดความสูญเสียให้สถานประกอบการ 415,200 บาท/เดือน
คำหลัก : ประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องจักร กระบวนการฉีดพลาสติก การวิเคราะห์ Why – Why
Abstract
In this case study is orchid packaging process improvement to get the maximum of effectiveness on plastic injection molding. At the current process status, the overall equipment effectiveness of the plastic injection molding process is 28.6 % which is lower than 78.6 % target from machine downtime and quality improvement. The root cause of phenomena is the hydraulic pump oil seal which is deterioration. After corrective action found that the overall equipment effectiveness of the plastic injection molding process is 82.4% and cost saving 415,200 Bath per month.
Keywords: Overall Equipment Effectiveness, Plastic Injection Molding, Why – Why Analysis.
งานที่อ้างถึง/Bibliography
อัมรินทร์ วงศ์เศรษฐี และจุมพล บารุงวงศ์. (2561). การปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องจักรในกระบวนการฉีดพลาสติก กรณีศึกษาบรรจุภัณฑ์กล้วยไม้. การจัดประชุมวิชาการข่ายงานวิศวกรรมอุตสาหการ ประจำปี พ.ศ.2561 (หน้า 1092-1096). อุบลราชธานี: ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
Amarin Wongsetti and Joompon Bamrungwong. (2018). The Overall Equipment Effectiveness Improvement for Plastic Injection Molding Process in Case of the Orchid Packaging. IE Network Conference 2018 (pp. 1092-1096). Ubonratchathani: Department of Industrial Engineering Ubon Ratchathani University.
การพยากรณ์การสั่งซื้อสินค้าของร้านค้าปลีก กรณีศึกษาร้าน AAA
ชื่อบทความ: | การพยากรณ์การสั่งซื้อสินค้าของร้านค้าปลีก กรณีศึกษาร้าน AAA |
Research Article: | Forecasting Ordering purchase for Traditional Trade
Case Study AAA Shop |
ผู้เขียน/Author: | ฉมาธร กุยศรีกุล, นิธิศ ปุณธนกรภัทร์,วุฒิกรณ์ จริยตันติเวทย์ |
Email: | wuttikonj@gmail.com |
สาขาวิชา/คณะ: | ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม กรุงเทพฯ 10160 |
Department/Faculty | Department of Mechanical Engineering, Faculty of Engineering, Siam University, Bangkok 10160 |
Published/แหล่งเผยแพร่ | วารสารก้าวทันโลกวิทยาศาสตร์ ปีที่18 ฉบับที่2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2561
Advanced Science Journal, Vol. 18 No. 2, July – December 2018 |
เอกสารอ้างอิง
ฉมาธร กุยศรีกุล, นิธิศ ปุณธนกรภัทร์ และ วุฒิกรณ์ จริยตันติเวทย์. (2561). การพยากรณ์การสั่งซื้อสินค้าของร้านค้าปลีก กรณีศึกษาร้าน AAA. วารสารก้าวทันโลกวิทยาศาสตร์, 18(2), 26-34.
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาวิธีการพยากรณ์ที่เหมาะสมของการสั่งซื้อสินค้าของร้านค้าปลีก และลดต้นทุนการสั่งซื้อสินค้าภายในร้าน โดยผู้วิจัยได้ใช้ทฤษฎีการแบ่งประเภทสินค้าตามรอบการหมุนเวียน (ABC analysis) ซึ่งทำการแบ่งสินค้าออกเป็น 3 ประเภท คือ สินค้ากลุ่ม Aเป็นสินค้าที่ขายได้ภายใน 3 วัน มีจำนวน 26 รายการ สินค้ากลุ่ม Bเป็นสินค้าที่ขายได้ภายในภายใน 4-7 วัน มีจำนวน 27 รายการ และสินค้ากลุ่ม C เป็นสินค้าที่ขายไม่ได้เกินกว่า 7 วันขึ้นไป มีจำนวน 29 รายการ โดยสินค้ากลุ่ม A และสินค้ากลุ่มB ใช้วิธีการพยากรณ์อย่างง่าย (Naïve forecasting) วิธีการพยากรณ์ด้วยการหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving average) และวิธีการพยากรณ์ด้วยการวิเคราะห์การถดถอย (Regression analysis) โดยการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยร้อยละความคาดเคลื่อนสมบูรณ์ (Mean absolute percentage error : MAPE) และสินค้าในกลุ่ม C ทำการยกเลิกการสั่งซื้อ ซึ่งหลังจากการปรับปรุงพบว่าสามารถลดต้นทุนเฉลี่ยรวมการจัดเก็บสินค้าลงได้จากเดิม 102,453.27 บาทต่อเดือน ลดลงเหลือ 53,241.27 บาทต่อเดือน คิดเป็นผลต่างที่ลดลงได้ 49,212 บาทต่อเดือนหรือคิดเป็นร้อยละ 48.03
คำสำคัญ:
การพยากรณ์, ร้านค้าปลีก,ลดต้นทุน
ABSTRACT
This research aims to find out the proper forecasting method of ordering the retail store and reduce the cost of ordering the retail store. The researcher uses the ABC analysis which divides the product into three categories as group A product is sold within 3 days (26 items), group B products are sold within the 4 to 7 days (27 items) and group C products are sold no more than 7 days (29 items). Group A and B products are using the methodology of forecasting under 3 methods as following: Naïve forecasting method, moving average and regression analysis by comparing mean absolute percentage error (MAPE) and product in group C is canceled the order purchase. After the improvement, it is found that the total cost of goods storage is reduced from 102,453.27 baht per month to 53,241.27 baht per month, representing a decrease of 49,212 baht per month or 48.03 percent.
Keywords:
Forecasting / Traditional trade / Reduce cost.
การพยากรณ์การสั่งซื้อสินค้าของร้านค้าปลีก กรณีศึกษาร้าน AAA
Faculty of Engineering, Siam University, Bangkok, Thailand
การพัฒนาทักษะการบริหารสถานศึกษาสำหรับผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา
ชื่อบทความ : การพัฒนาทักษะการบริหารสถานศึกษาสำหรับผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา: Development of School Administration Skills for Phrapariyattidhamma School Administrators, General Education Section
เจ้าของผลงาน : พระวรธนกร กิตฺติญาโณ แก้วพิลา, สมศักดิ์ บุญปู่, ระวิง เรืองสังข์ และ ผศ.ดร.สมหมาย จันทร์เรือง
บทคัดย่อ : การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาด้านทักษะการบริหาร ๒) เพื่อพัฒนาทักษะการบริหาร ๓) เพื่อเสนอกระบวนการพัฒนาทักษะการบริหารสถานศึกษาสำหรับผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี ได้แก่ การวิจัยเชิงปริมาณ ด้วยการแจกแบบสอบถาม เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๕๕๖ รูป/คน สถิติที่ใช้ การวิเคราะห์ปัจจัยเชิงสำรวจ และแบบตรวจสอบกลุ่มตัวอย่าง ๒๐๑ รูป/คน สถิติที่ใช้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ๑๐ รูป/คน สนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ ๑๐ รูป/คน เครื่องมือ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาผลการวิจัย พบว่า
๑. สภาพปัจจุบันปัญหาด้านทักษะการบริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา พบว่ามีการขาดการบริหารอย่างเป็นระบบและมีการพัฒนาไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงแต่การมอบอำนาจในการตัดสินใจยังขึ้นอยู่กับผู้บริหารที่มีลำดับชั้นสูงกว่า การจัดการบริหารในภาพรวมไม่เด่นชัดรวมทั้งการบริหารจัดกิจการคณะสงฆ์ในระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับดี การสั่งการจากบนลงล่างการศึกษาของวัดและของคณะสงฆ์ขาดการพัฒนาทักษะด้านการบริหารจัดการที่ดี
๒. การพัฒนาทักษะการบริหารสถานศึกษา สำหรับผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา พบว่า ความเป็นไปได้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และความถูกต้อง ความเป็นประโยชน์ และความเหมาะสมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ตามลำดับ
๓. กระบวนการพัฒนาทักษะการบริหารสถานศึกษาสำหรับผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ประกอบด้วย ๕ ส่วน ดังนี้ ๑) องค์ประกอบของทักษะผู้บริหารสถานศึกษา ๕ ด้าน
๒) กระบวนการพัฒนาทักษะการบริหารสถานศึกษา ๕ ด้าน ๓) ประเภทการพัฒนาทักษะการบริหารสถานศึกษา ๕ ด้าน ๔) องค์ประกอบของการบริหารสถานศึกษา ๖ ด้าน และ ๕) กิจกรรมการพัฒนาทักษะ ๕ กิจกรรม อีกทั้งยังพบหลักปาปณิกธรรม ๓ ที่ทำให้ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้บริหารที่ตรงตามหลักพระพุทธศาสนา คือ ผู้มองการณ์ไกลในการทำงาน (จักขุมา) เป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำงาน (วิธูโร) และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี (นิสฺสยสัมปันโน)
คำสำคัญ : การพัฒนา, ทักษะการบริหารสถานศึกษา, โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา
Publication : วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ปีที่ 5 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2561
Journal of Educational Review Faculty of Educational in MCU Vol.5 No.3 September-December 2018
Link to Publication: http://www.ojs.mcu.ac.th/index.php/edmcu/issue/archive
Download PDF : https://tci-thaijo.org/index.php/EDMCU/article/view/163594
Bibliography : พระวรธนกร กิตฺติญาโณ แก้วพิลา, สมศักดิ์ บุญปู่, ระวิง เรืองสังข์ และ สมหมาย จันทร์เรือง. (2554). การพัฒนาทักษะการบริหารสถานศึกษาสำหรับผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์, 5(3), 66-76.
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม
การพัฒนามอร์ต้าร์ผสมน้ำยางพาราสำหรับซ่อมแซมและบำรุงรักษาคลองชลประทาน
ชื่อเรื่อง : การพัฒนามอร์ต้าร์ผสมน้ำยางพาราสำหรับซ่อมแซมและบำรุงรักษาคลองชลประทาน: The Development of Mortar Mixed with Rubber Latex for Irrigation Canal Maintenance
เจ้าของผลงาน : ผศ.ดร.พีรวัฒน์ ปลาเงิน
เจ้าของผลงานร่วม: อาจารย์สมศักดิ์ ชินวิกกัย และ ผศ.พ.อ.ดร.ชวน จันทวาลย์
หน่วยงาน : ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม
บทคัดย่อ : การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อปรับปรุงสมบัติของมอร์ต้าร์ผสมน้ำยางพาราชนิดพรีวัลคาไนซ์สำหรับใช้ซ่อมแซมรอยแตกร้าวและบำรุงรักษาคลองส่งน้ำชลประทาน ทั้งนี้ทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการ ซึ่งประกอบด้วยการทดสอบกำลังรับแรงอัด กำลังรับแรงดัด กำลังรับแรงดึง และการดูดซึมน้ำของมอร์ต้าร์ผสมน้ำยางพาราโดยกำหนดอัตราส่วนปริมาณเนื้อยางต่อปูนซีเมนต์ (P/C) เท่ากับร้อยละ 5, 10 และ 15 โดยน้ำหนัก นอกจากนี้ ยังได้ทดสอบมอร์ต้าร์ไม่ผสมน้ำยางพาราด้วยสำหรับอัตราส่วนน้ำต่อปูนซีเมนต์ (w/c) แปรเปลี่ยนที่ 0.4, 0.5 และ 0.6 ผลการวิจัยพบว่ามอร์ต้าร์ผสมน้ำยางพาราที่อัตราส่วนเนื้อยางต่อปูนซีเมนต์ (P/C) เท่ากับร้อยละ 5 และอัตราส่วนน้ำต่อปูนซีเมนต์ (w/c) เท่ากับ 0.5 ที่ระยะเวลาการบ่ม 28 วัน มีสมบัติทางกลและการดูดซึมน้ำดีที่สุด ดังนี้ กำลังรับแรงอัด 310 กก./ซม2 กำลังรับแรงดัด 70 กก./ซม2 กำลังรับแรงดึง 46 กก./ซม2 การดูดซึมน้ำร้อยละ 5.35 และ การรั่วซึมน้ำ 13.64 มม./วัน ผลการศึกษาวิจัยดังกล่าวได้ถูกน้ำไปประยุกต์ใช้ซ่อมแซมรอยแตกร้าวและบำรุงรักษาคลองชลประทานที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี จากการติดตามประเมินผลเบื้องต้นการใช้งานคลองส่งนน้ำชลประทาน พบว่าปริมาณน้ำไหลเข้าสู่พื้นที่แปลงนาไหลได้สะดวกและรวดเร็ว สามารถป้องกันการสูญเสียน้ำเนื่องจากการรั่วซึมได้ดีและทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของระบบชลประทาน
คำสำคัญ : มอร์ต้าร์, น้ำยางพรีวัลคาไนซ์, สมบัติทางกลของมอร์ต้าร์, คลองชลประทาน
Website : วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ. ปีที่ 41 ฉบับที่ 2 เมษายน – มิถุนายน 2561 http://www.kmutt.ac.th/rippc/v41n2.htm
Download PDF : การพัฒนามอร์ต้าร์ผสมน้ำยางพาราสำหรับซ่อมแซมและบำรุงรักษาคลองชลประทาน
Bibliography : พีรวัฒน์ ปลาเงิน, สมศักดิ์ ชินวิกกัย และ ชวน จันทวาลย์. (2561). การพัฒนามอร์ต้าร์ผสมน้ำยางพาราสำหรับซ่อมแซมและบำรุงรักษาคลองชลประทาน. วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ, 41(2), 211-223.