ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 21 ตุลาคม 2443(ค.ศ.1900) เป็นวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็นวันพยาบาลแห่งชาติ ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของไทย โดยได้จัดตั้งวันนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ในฐานะที่พระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชาวไทยผู้ยากไร้และด้อยโอกาส ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ชนบท หรือผู้ที่ไม่กำลังทรัพย์ในการเข้ารักษาพยาบาลในยามเจ็บป่วยได้ ทรงอุทิศตนเพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับการรักษา พยาบาลได้อย่างทั่วถึงทุกคน สร้างสุขภาพที่ดีให้ประชาชน
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าวแล้วนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอขอความเห็นชอบต่อคณะ รัฐมนตรี ให้วันที่ 21 ตุลาคม ของทุกปีเป็นวันพยาบาลแห่งชาติ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2533 สภาการพยาบาล และสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในนามของพยาบาลและผดุงครรภ์ทั้งประเทศถือเป็นสิริมงคลอันสูงยิ่ง และได้ร่วมกันจัดงานวันพยาบาลแห่งชาติ ในวันที่ 21 ตุลาคม ของทุกปีนับแต่นั้นเป็นต้นมา
ประวัติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระนามเดิมว่า สังวาลย์เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2443 ณ จังหวัดนนทบุรีเป็นบุตรคนที่ 3 ในพระชนกชูและพระชนนีคำ มีพระภคินีและพระเชษฐา 2 คน ซึ่งได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่เยาว์วัย คงเหลือแต่พระอนุชาอ่อนกว่าพระองค์ 2 ปี คือ คุณถมยา
ทรงเข้าศึกษาที่ โรงเรียนหญิงแพทย์ผดุงครรภ์แลการพยาบาลไข้ ในปี พ.ศ.2456 และทรงสำเร็จการศึกษาเมื่อปี พ.ศ.2459 นับเป็นเกียรติยศอันสูงสุดของโรงเรียน จากนั้นได้รับพระราชทานทุนการศึกษาจากสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ไปศึกษาต่อที่โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับนางสาวอุบล ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา และสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทรงพบกับ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่กำลังทรงศึกษาวิชาแพทย์ปีที่ 1 ทรงพอพระทัยกับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. 2463 ได้มีพิธีอภิเษกสมรสที่วังสระปทุม และหลังจากได้อภิเษกสมรสแล้วทั้ง 2 พระองค์ได้ตามเสด็จด้วยกันไปประพาสเมืองต่างๆ ในทวีปยุโรป และสหรัฐอเมริกา เพื่อทรงศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และสถาบันเอ็มไอทีเมืองบอสตัน ส่วนสมเด็จพระบรมราชชนนี ทรงเรียนหลักสูตรเตรียมพยาบาลที่วิทยาลัยซิมมอนส์เมืองบอสตัน หลังจากทั้ง 2 พระองค์ทรงจบการศึกษาสมเด็จพระบรมราชชนนีได้ประสูติพระราชธิดาและพระราชโอรส ดังนี้
- สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2466
- พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468
- พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ได้ประกอบพระราชกรณียกิจ ด้วยทรงห่วงใยราษฎรที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ทรงเสด็จเข้าเยี่ยมเยียนชาวไทยภูเขาทางภาคเหนือ และได้พระราชทานความช่วยเหลือ ด้านสาธารณสุข เสื้อผ้า และอาหาร ผ่านเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ชาวไทยภูเขาจึงถวายพระสมัญญานามแก่พระองค์ว่า “แม่ฟ้าหลวง”
เสด็จสวรรคต
วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมีพระอาการทรุดลง เนื่องด้วยมีพระอาการแทรกซ้อนทางพระยกนะ(ตับ) และพระวักกะ(ไต) ไม่ทำงาน พระหทัย(หัวใจ) ทำงานไม่ปกติ ความดันพระโลหิตต่ำ คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาความผิดปกติของระบบต่าง ๆ รวมทั้งการฟอกพระโลหิตด้วยเครื่องไตเทียมและกรองสารพิษซึ่งเกิดจากภาวะผิดปกติของพระยกนะ แต่พระอาการคงอยู่ในภาวะวิกฤต จนกระทั่ง เวลา 21.17 น. สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จสวรรคต สิริพระชนมายุ 94 พรรษา
พระราชกรณียกิจทางด้านการแพทย์ พยาบาล การสาธารณสุข และการศึกษา
[dropcap font=”Arial” color=”#cc0033″]1[/dropcap]หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.)เป็นหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ที่เดินไปในถิ่นทุรกันดาร ประกอบด้วย แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล แพทย์แผนไทย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และสมาชิกสมทบอีกคณะหนึ่ง ซึ่งไม่ได้รับสิ่งตอบแทน และ เบี้ยเลี้ยง เงินเดือน
[dropcap font=”Arial” color=”#ffdf42″]2[/dropcap]มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
จัดตั้งเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2535 เพื่อทำขาเทียมและพระราชทานให้แก่ผู้พิการขาขาดที่ยากจนในชนบท โดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา และไม่คิดมูลค่า ซึ่งมูลนิธิขาเทียมฯนี้ ทรงก่อตั้งร่วมกับสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยพระองค์ท่านพระราชทานพระราชทรัพย์เป็นทุนประเดิมในการก่อตั้งมูลนิธิและทรงดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์อีกด้วย
[dropcap font=”Arial” color=”#cc0033″]3[/dropcap]มูลนิธิถันยรักษ์ ที่โรงพยาบาลศิริราช
เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2538 เพื่อใช้เป็นสถานที่ตรวจวินิจฉัยเต้านม
[dropcap font=”Arial” color=”#ff9900″]4[/dropcap]ทรงบริจาคเงินเพื่อสร้างโรงเรียนกว่า 185 โรงเรียน และทรงรับเอาโครงการของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนไว้ในพระราชูปถัมภ์
[dropcap font=”Arial” color=”#cc0033″]5[/dropcap]เสด็จเยี่ยมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นการส่วนพระองค์ เมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2510 โดยการนี้ได้ทรงม้าเสด็จเยี่ยมชม “สวนนอก” มี ศ.บรรเจิด คติการ และ ศ.ระพี สาคริก กราบทูลรายงาน อนึ่งในขณะเสด็จอยู่ในมหาวิทยาลัยนี้ สมเด็จพระราชชนนีทรงพอพระทัยเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับรับสั่งกับผู้ติดตามว่า “เกษตรนี้น่าอยู่จริง ๆ ฉันควรจะได้มาเยี่ยมที่นี่ตั้งนานแล้ว..”
โรงเรียนหญิงแพทย์ผดุงครรภ์และการพยาบาลไข้
เป็นสถาบันการศึกษาด้านพยาบาลแห่งแรกของประเทศไทย โดย สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดตั้งขึ้นในบริเวณโรงพยาบาลศิริราช เมื่อปี พ.ศ.2439 และได้ดำเนินการจัดการศึกษามาเป็นเวลา 117 ปี มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยในปี พ.ศ.2515 ได้รับการยกฐานะเป็น คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
เมื่อเกิดภาวะขาดแคลนพยาบาลตั้งแต่ปีการศึกษา 2535 เป็นต้นมา จึงต้องรับนักศึกษาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ประสบปัญหาความไม่เพียงพอของสถานที่ ทางคณะฯ จึงมีโครง การปรับปรุงอาคาร “พระศรีนครินทร์” (อาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์) ภายในโรงพยาบาลศิริราช ช่วงปี พ.ศ.2543-2545 เพื่อให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นสำหรับจัดการเรียนการสอน การศึกษาค้นคว้าวิจัย และการสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางการพยาบาลแก่นักเรียนในประเทศและต่างประเทศ
การพยาบาล คือ การช่วยเหลือดูแลผู้ป่วย เพื่อช่วยฟื้นฟูให้ร่างกายของผู้ป่วยกลับมาแข็งแรง มีสุขภาพที่ดีเหมือนเช่นเดิม ดังนั้น ผู้ที่ต้องการจะประกอบอาชีพด้านพยาบาล จะต้องมีความขยัน อดทน มีการเรียนรู้ และฝึกฝน เพื่อให้เกิดความชำนาญในการดูแลผู้ป่วย นั่นเอง
สัญลักษณ์พยาบาลไทย
สภาการพยาบาลได้กำหนดให้ “ดอกปีบ” เป็นสัญลักษณ์ของพยาบาลไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 เป็นต้นมา เนื่องจาก ดอกปีบ เป็นดอกไม้สีขาวที่มีกลิ่นหอม ต้นปีบเป็นไม้ยืนต้น ขึ้นได้ในที่ดินแห้งแล้ง ราก ลำต้น และดอกใช้เป็นสมุนไพรได้ เปรียบกับพยาบาลในชุดสีขาวผู้พร้อมที่จะประกอบคุณงามความดี ประดุจกลิ่นหอมของดอกปีบ และพร้อมที่สร้างประโยชน์เช่นเดียวกับการเป็นสมุนไพรของดอกปีบ นั่นเอง
คำขวัญวันพยาบาลแห่งชาติ
“การพยาบาลก้าวไกล เพราะน้ำใจเหล่าพยาบาล เสียสละและบริการ ตามปณิธานสมเด็จพระบรมราชชนนี”
- แคมปัสสตาร์. (ม.ป.ป.). 21 ตุลาคม วันพยาบาลแห่งชาติ สืบสานพระราชปณิธาน สมเด็จย่า. เข้าถึงได้จาก https://lifestyle.campus-star.com/knowledge/86453.html
- ซาบซ่าส์ดอทคอม. (2556). วันพยาบาลแห่งชาติ 9 กรกฎาคม 2013. เข้าถึงได้จาก https://www.zabzaa.com/day/วันพยาบาลแห่งชาติ/
- วันพยาบาลแห่งชาติ วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๐. (2560). เข้าถึงได้จาก http://www.bcnpy.ac.th/bcnpy/images/files/pdf/2560/day-nurse-60.pdf